‘เลย์’เขย่าสแน็ก3หมื่นล้าน ขยับตัวเพิ่มปริมาณ36%-แตกไลน์บุกขนมขึ้นรูป

27 ส.ค. 2559 | 04:00 น.
ตลาดสแน็ก 3 หมื่นล้านระอุ “เลย์” ขยับตัวครั้งใหญ่ขยายฐานลูกค้าปลุกกำลังซื้อคึกคัก หลังแตกไลน์รุกตลาดขนมขึ้นรูป ส่ง 2 คู่จิ้นระดับประเทศ “ญาญ่า-ณเดชน์” ช่วยสร้างแบรนด์ ล่าสุดเพิ่มปริมาณ 36% พร้อมจัดหนักผ่านโลกออนไลน์ ด้าน “ทาโร” จัดทัพเซลส์ลุยพื้นที่ แนะร้านค้าเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าสู่โชวห่วยขณะที่ “เถ้าแก่น้อย” ซุ่มพัฒนาแบรนด์ใหม่ “บิ๊กซีท อบ”สาหร่ายแคลอรีตํ่ารุกหนักโค้งท้าย

[caption id="attachment_89347" align="aligncenter" width="700"] มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว 6 เดือนแรก (ม.ค.- มิ.ย. 59 ) มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว 6 เดือนแรก (ม.ค.- มิ.ย. 59 )[/caption]

นายนิติน บันดารี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่านโยบายของเลย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดโดยพบว่าที่ผ่านมาเลย์จะพัฒนารสชาติใหม่ๆ ออกวางจำหน่ายตลาดเวลาเพื่อให้มีความหลากหลายและรองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ และล่าสุดบริษัทขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ “เลย์” ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเซ็กเมนต์ขนมขึ้นรูป ซึ่งเป็นอีกเซ็กเมนต์ในตลาดสแน็ก ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีมูลค่ารวมกว่า 8,600 ล้านบาท

โดยบริษัทวางจำหน่าย "เลย์ เน็ต" ขนมขึ้นรูปทรง 6 เหลี่ยมลายตารางรสสาหร่ายทรงเครื่อง และ "เลย์ ทรีดี" ขนมขึ้นรูปทรง 3 เหลี่ยม 3 มิติรสบาร์บีคิว ออกวางจำหน่ายในกลางปีที่ผ่านมา โดยมีจุดขายที่เป็นขนมขึ้นรูปจากมันฝรั่ง และใช้กลยุทธ์การตลาด 360 องศาจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสิ่งแปลกใหม่ พร้อมใช้ 2 ซูเปอร์สตาร์อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์เป็นพรีเซนเตอร์นำเสนอสินค้า โดยเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ด้านกลยุทธ์การทำตลาดบริษัทเน้นการทำกิจกรรมแบบครบวงจร ผ่านคอนเซ็ปต์ "2 รูปแบบความอร่อยใหม่จากเลย์…อร่อยเข้ม ลองเลย" โดยเริ่มยิงหนังโฆษณาชุดแรกผ่านสถานีโทรทัศน์ต่างๆ พร้อมด้วยสื่อสนับสนุนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งสื่อกลางแจ้ง สื่อในโรงภาพยนตร์ สื่อ ณ จุดขาย และในร้านค้าต่างๆ รวมทั้งการจัดคาราวานแจกสินค้าตัวอย่างให้กับผู้บริโภคได้ทดลองชิมกว่า 3 แสนซอง พร้อมจัดทำไซซ์พิเศษออกวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาด้วย

นอกจากนี้ยังมีแคมเปญออนไลน์ "Net & 3D Story" ที่ถ่ายทอดความสนุกผ่านเรื่องราวกวนๆ ในรูปแบบแอนิเมชันของ "เน็ต" และ "ทรีดี" 2 คาแรกเตอร์ตัวแทนขนมทรง3 เหลี่ยมและทรง 6 เหลี่ยม เพื่อสร้างการจดจำและความเข้าใจในสินค้าใหม่เจาะกลุ่มวัยซ่าส์โดยเฉพาะ ผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, YouTube และ Line

ทั้งนี้ล่าสุดเลย์ ยังเพิ่มปริมาณฟรี 36% ในเลย์ขนาด 5 บาท ซึ่งเดิมมีปริมาณ 14 กรัม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อง่ายขึ้น และยังทำกิจกรรมผ่านออนไลน์ ด้วยการเชิญชวนเพื่อนมาอร่อยกับเลย์ 5 บาท ขนาดใหม่ เพิ่มปริมาณฟรี 36% ผ่านทางแฟนเพจ LaysThailand โดยคลิกหยุดภาพ GIF animation ที่ https://goo.gl/T56juV พร้อมแคปเจอร์หน้าจอให้เข็มมิเตอร์ ตรง 36% และ mention เพื่อนของคุณ 1 คน พร้อมประโยคเก๋ ๆ ชวนเพื่อนมาอร่อยกับเลย์ 5 บาท ขนาดใหม่ เพิ่มปริมาณฟรี36% ที่ใต้โพสต์กิจกรรมนี้เท่านั้น https://goo.gl/T56juV โดยผู้ที่ชวนเพื่อมาอร่อยกับเลย์และโดนใจกรรมการ จะได้รับรางวัลเป็นบัตรชมภาพยนตร์ จำนวน 40 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ เป็นต้น

ด้านดร.สมชาย ชุณหรัศมิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปลาเส้น "ทาโร" กล่าวว่า นโยบายของบริษัทในการรุกตลาดขนมขบเคี้ยวจะเน้นที่ผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยเน้นถึงคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับระบบซัพพลายเชน ทั้งร้านค้าโชวห่วย และโมเดิร์นเทรด โดยเน้นให้ทีมขายกว่า 200 คน เข้าเยี่ยมร้านค้าส่งซึ่งมีอยู่กว่า 3 หมื่นแห่ง เพื่อให้ช่วยกระจายสินค้าไปยังร้านโชวห่วยซึ่งมีอยู่กว่า 2 แสนแห่งทั่วประเทศด้วย

ขณะที่นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสาหร่ายปรุงรส "เถ้าแก่น้อย" กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดขนมขบเคี้ยวให้มีการตื่นตัว บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมารุกตลาด ในกลุ่มสาหร่ายอบในชื่อ "บิ๊กชีท อบ" ที่มี แคลอรี่น้อย เจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและรูปร่างตัวเอง และขนมสาหร่ายทะเลทอดกรอบ "ซีเกิ้ล" จากปัจจุบันเถ้าแก่น้อย มีสินค้าทั้งหมด 4 กลุ่ม รวม 150 รายการ ได้แก่ สาหร่ายทอดมีสัดส่วน 55% สาหร่ายย่าง 37% สาหร่ายอบ 1% และที่เหลือเป็นสาหร่ายเทมปุระ ควบคู่กับในส่วนของร้าน TaoKaeNoi Land ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 สาขา และมีแผนจะเปิดสาขาที่ 7 ในเดือนกันยายน 2559 นี้ ที่ Show DC ย่านพระราม 9

"บริษัทต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้กว้างขึ้น ซึ่งนอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกวางจำหน่ายแล้ว ยังนำเสนอกลยุทธ์ใหม่ๆ จากเดิมที่เน้นมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง การจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมต่างๆ ทำให้สามารถครองใจลูกค้าในเมืองและคนรุ่นใหม่ได้ ล่าสุดยังใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในต่างจังหวัด"

อย่างไรก็ดี บริษัทยังใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โดยได้เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2558 จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1ของปี 2560 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 6,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งหมด 6,000 ตันต่อปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายกำลังการผลิตจากโรงงานแห่งแรกที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันใช้กำลังการผลิตที่ 93% ทำให้ต้องมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวในช่วงครึ่งปีแรก มีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท มีการเติบโตที่ 3 % ถือว่าเติบโตน้อยมาก จากปกติที่เคยเติบโตที่ 10% กลุ่มที่มีการเติบโตดีได้แก่ ถั่ว ปลาเส้น ส่วนมันฝรั่งติดลบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากการออกสินค้าใหม่ๆ สำหรับตลาดขนมสาหร่าย มีมูลค่าตลาดรวม 2,540 ล้านบาท เติบโต 1-2% ในขณะที่เถ้าแก่น้อยเติบโตมากกว่า อยู่ที่ 8 – 10% เป็นการเติบโตที่ไม่รวมนักท่องเที่ยว แต่ถ้ารวมนักท่องเที่ยว เติบโตสูงถึง 19% ปัจจุบัน เถ้าแก่น้อย เป็นผู้นำตลาดสาหร่าย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 66% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาด 62%

ขณะที่ตลาดมันฝรั่ง ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทมีเลย์ เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาดเกือบ 70%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,186 วันที่ 25 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559