แป้ง‘ศรีจันทร์’รีแบรนด์รอบ2 ปั้นสินค้าขึ้นอินเตอร์ เทงบ 80 ล้านโหมตลาดต่างชาติ

01 ส.ค. 2559 | 04:00 น.
เครื่องสำอาง “ศรีจันทร์” เตรียมรีแบรนด์รอบ 2 หวังสร้างภาพลักษณ์อินเตอร์ จับตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น พร้อมปั้นสินค้าคุณภาพเทียบอินเตอร์แบรนด์ จับมือโรงงานในญี่ปุ่นผลิตสินค้า กลุ่มกันแดด รองพื้น และแป้งอัดแข็ง หนีคู่แข่งที่ผลิตในจีน มั่นใจหลังรีแบรนด์ยอดขายโตไม่ตํ่ากว่า 20-30%

[caption id="attachment_76526" align="aligncenter" width="500"] รวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด รวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด[/caption]

นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ ศรีจันทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคมได้เตรียมเปิดตัวแบรนด์ศรีจันทร์ภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้ง ถือเป็นการปรับภาพลักษณ์สินค้าใหม่ หรือการรีแบรนด์ครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ได้เข้ามาบริหารธุรกิจ จากรีแบรนด์สินค้าครั้งแรกเมื่อช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยภาพลักษณ์ใหม่สินค้าจะมีความทันสมัยและภาพลักษณ์มีความเป็นสากล ซึ่งจะใช้ชื่อแบรนด์ด้วยภาษาอังกฤษเพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถอ่านชื่อแบรนด์ได้ เนื่องจากต้องการขยายตลาดและจับกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากขึ้น

นอกจากการปรับภาพลักษณ์ใหม่แล้ว ยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าซีรีส์ใหม่ ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มกันแดด กลุ่มแป้งอัดแข็ง และกลุ่มรองพื้น ที่ได้ใช้โรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตสินค้า ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนื่องจากต้องการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับสินค้าอินเตอร์แบรนด์ และต้องการสร้างความแตกต่างกับสินค้าเครื่องสำอางคู่แข่ง ที่ส่วนใหญ่จะใช้โรงงานในประเทศจีนเป็นผู้ผลิต เพราะเชื่อว่าสินค้าจะได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค และเป็นการปรับตัวรับกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรง

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเปิดตัวและการสร้างภาพยนตร์โฆษณา 4 เรื่อง ที่จะเป็นการสร้างความตื่นเต้นและความประหลาดใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งในช่วงที่บริษัทได้รีแบรนด์สินค้าครั้งแรก และมีการสร้างภาพยนตร์โฆษณาด้วยการใช้พรีเซนเตอร์เป็นชาวต่างชาติ พร้อมกับสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะภายหลังการฉายภาพยนตร์โฆษณาเพียง 10 วันสามารถขายสินค้าได้สูงถึง 2 แสนชิ้น และยังมียอดขายเติบโตถึง 20 เท่าหลังการรีแบรนด์สินค้าด้วย

นายรวิศ กล่าวอีกว่า การรีแบรนด์ครั้งนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสามารถทำยอดขายได้เติบโตเท่าไร เนื่องจากเป็นการเปิดตัวช้ากว่ากำหนดที่คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากติดปัญหากระบวนการผลิตสินค้า แต่เชื่อว่าจากแผนงานต่างๆ ที่บริษัทวางแผนไว้ ในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 20-30% จากปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 400 ล้านบาท

สำหรับสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นสินค้าอะไรบ้าง แต่จะเน้นสินค้าภายใต้ 3 กลุ่มดังกล่าว และจากการผลิตภายใต้โรงงานในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและมีกำไรน้อยลง แต่บริษัทมุ่งเน้นปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยราคาสินค้าใหม่จะอยู่ในช่วง 300-500 บาท ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านออนไลน์ ที่ได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับเว็บไซต์รายหนึ่งที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้

ส่วนแผนการขยายตลาดในต่างประเทศ ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรายล่าสุดในประเทศไต้หวัน ขณะที่ตลาดในประเทศจีนยังอยู่ระหว่างการหาตัวแทนจำหน่ายสินค้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันตลาดประเทศจีนมีสินค้าของศรีจันทร์ไปจำหน่ายบ้างแล้ว เป็นการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ที่มีผู้นำเข้าไปจำหน่าย นอกจากนี้ บริษัทยังมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มซีแอลเอ็มวีด้วยเช่นกัน แต่ยอดขายโดยรวมยังไม่มากนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,179
วันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559