‘โปเกมอน’ ฮิตหนุนนินเทนโด นักลงทุนเห็นโอกาสตลาดโมบายเกม
นักลงทุนหวังว่าความสำเร็จของเกม “โปเกมอน โก” จะเข้ามาช่วยกระตุ้นธุรกิจโมบายเกมของนินเทนโด หลังจากนินเทนโดตัดสินใจเริ่มก้าวเข้ามารุกตลาดเกมบนสมาร์ทโฟน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มูลค่าหุ้นของนินเทนโดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้บริษัทมีมูลค่าในตลาดเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่การเปิดตัวแอพพลิเคชันเกมบนสมาร์ทโฟนล่าสุด โปเกมอน โก (Pokemon Go) เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเกมดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจนก้าวขึ้นมาเป็นแอพพลิเคชันฟรีที่ถูกดาวน์โหลดสูงสุดบนแอพสโตร์ของแอปเปิลในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย
ความสำเร็จในการเปิดตัวเกมโปเกมอน โก ทำให้นักลงทุนมองว่า นินเทนโดยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการรุกเข้าสู่ตลาดโมบายเกมอยู่อีกมาก จากตัวละครยอดนิยมอย่างมาริโอ หรือ เซลด้า ที่ยังไม่มีการนำมาพัฒนาเป็นโมบายเกม
เกมโปเกมอน โก ใช้เทคโนโลยี augmented reality หรือการผสมผสานโลกความจริงเข้ากับโลกเสมือน โดยผู้เล่นเกมจะต้องไปตามสถานที่ต่างๆ บนแผนที่จริงเพื่อตามจับตัวโปเกมอนมาฝึกหัดและนำไปต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่นๆ ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมโปเกมอนโกได้ฟรี แต่จะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าในเกมเพิ่มเติม
มีอา นากาซากะ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ เอ็มยูเอฟจี ซีเคียวริตีส์ ประเมินว่า เกมนินเทนโด โก จะช่วยกระตุ้นกำไรของนินเทนโดได้อย่างชัดเจน ก็ต่อเมื่อเกมดังกล่าวต้องทำรายได้ต่อเดือนได้อย่างต่ำ 1.5-2 หมื่นล้านเยน ซึ่งนากาซากะกล่าวว่า ในวันแรกโปเกมอน โก ทำรายได้ไปประมาณ 400-500 ล้านเยน ดังนั้นเกมจะต้องทำยอดขายอยู่ในอันดับต้นของแอพสโตร์อย่างต่อเนื่องจึงจะช่วยเพิ่มกำไรให้นินเทนโดได้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในระยะยาว
อย่างไรก็ดี เดวิด กิบสัน และอายะ ฮารุยามะ นักวิเคราะห์จากแคปิตอล ซีเคียวริตีส์ มองว่าโปเกมอนโก มีช่องทางสร้างรายได้ให้นินเทนโดอยู่อีกมาก "เมื่อผู้เล่นสะสมโปเกมอนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อดูแล ฝึกหัด และนำโปเกมอนของตนเองไปต่อสู้" กิบสันและฮารุยามะกล่าวในรายงาน พร้อมกับยกตัวอย่างว่า การใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าภายในเกมของผู้เล่นออสเตรเลียนั้นเกิดขึ้นโดยผู้เล่นจำนวนมาก แทนที่จะเกิดจากผู้เล่นจำนวนน้อยใช้จ่ายคราวละมากๆ
โปเกมอนนับเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับนินเทนโด โดยเฉพาะกับเครื่องเล่นเกมแบบพกพา โดยเกมโปเกมอน เอ็กซ์ และโปเกมอน วาย เป็นเกมที่ขายดีที่สุดของอุปกรณ์นินเทนโด 3 ดีเอส ด้วยยอดขายรวมกัน 14.7 ล้านก๊อบปี้ ขณะที่เกมโปเกมอนสำหรับสำหรับนินเทนโด ดีเอส ทำยอดขายรวมกันกว่า 46 ล้านก๊อบปี้
นินเทนโดตัดสินใจก้าวเข้ามารุกตลาดโมบายเกมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี หลังจากปฏิเสธที่จะเปิดระบบวิดีโอเกมของตนเองให้กับอุปกรณ์อื่นมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม เกมสำหรับสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวออกมาเป็นเกมแรกของนินเทนโด คือ มีโมโตะ (Miimoto) นั้นไม่สามารถสร้างกระแสได้มากนัก ทั้งนี้ นินเทนโดกล่าวว่าแอพพลิเคชันดังกล่าวมีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนในการเปิดตัวเดือนแรก และจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารและพอร์ทัลสำหรับเกมต่างๆ ของนินเทนโดทั้งบนอุปกรณ์โมบายและเครื่องเล่นวิดีโอเกม
ความสำเร็จของโมบายเกมนับเป็นสิ่งที่นินเทนโดต้องการ ในเวลาที่ยอดขายเครื่องเล่นวิดีโอเกม วี ยู (Wii U) รวมถึงเครื่องเล่นพกพา 3 ดีเอส ปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เล่นเกมที่หันไปเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทั้งนี้ นินเทนโดวางเป้าหมายที่จะนำเกมสำหรับสมาร์ทโฟนออกวางตลาดอีก 4 เกมภายในสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน (สิ้นสุดมีนาคม 2560) และคาดหมายว่าโมบายเกมจะช่วยเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานเป็น 4.5 หมื่นล้านเยน ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะส่งเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นใหม่ออกวางตลาดในเดือนมีนาคม 2560
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559