สนามบินอุดรยกระดับเชื่อม 3 เหลี่ยมมรดกโลก

สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี สบช่องเออีซี ชงกกร.-กรอ. ฟื้นโครงการสร้างศักยภาพ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติสมบูรณ์แบบ พร้อมเสนอเชิญสายการบินโลว์คอสต์บินนำร่องชาร์เตอร์ไฟลต์สู่สามเหลี่ยมมรดกโลกกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี

นายทินกร ทองเผ้า นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี และประธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในจังหวัดอุดรธานี เช่น หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ชมรมธนาคารพาณิชย์อุดรธานี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ในรูปของ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ฟื้นโครงการผลักดันให้ท่าอากาศยานอุดรธานี ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.จังหวัด) เพื่อส่งต่อให้ กรอ.ใหญ่ เสนอรัฐบาลหลังจากสนามบินดังกล่าวได้รับการประกาศเป็นสนามบินศุลกากรหรือท่าอากาศยานนานาชาติเมื่อหลายปีก่อน

ดังนั้นจึงต้องผลักดันให้ ท่าอากาศยานอุดรธานีเป็นศูนย์กลางหรือจุดเริ่มต้นทำการบินไปยัง กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรืออนาคตอาจจะเป็นประเทศจีนตอนใต้ โดยในเบื้องต้นเป็นการบินเชื่อมโยงไปยังจังหวัด/แขวงที่เป็นที่ตั้งแหล่งมรดกโลกก่อนคือ เมืองหลวงพระบาง, จังหวัดกวางนิ่งห์คือสนามบินเมืองไฮฟอง ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อเชื่อมโยงกับโครงการสามเหลี่ยมมรดกโลก แล้วอนาคตก็ขยายต่อไปยังจุดหมายอื่นๆ เช่น ฮานอย ดานัง ไซ่ง่อน เสียมราฐ พนมเปญ หรือหากมีการเจริญเติบโต ก็อาจจะทำการบินไปยังประเทศจีนตอนใต้นายทินกรกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยผลักดันมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่สำเร็จ และมั่นใจว่า เมื่อกลับมาเป็นนายกสมาคมอีกสมัยน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

นายทินกรยังกล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการ ก็ควรหาสายการบินโลว์คอสต์ มาบินแบบเช่าเหมาลำหรือแบบชาร์เตอร์ไฟลต์ เหมือนกับที่สายการบินของจีนที่บินตรงสู่จังหวัดแหล่งท่องเที่ยวของไทยในขณะนี้ ซึ่งเบื้องต้นจะนำร่องก่อน และอนาคตน่าจะเปิดบินประจำแต่มีเงื่อนไขว่า จังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องจัดสรรงบประมาณประชาสัมพันธ์สายการบินดังกล่าวด้วย

สำหรับเหตุผลที่ผลักดันให้ สนามบินอุดรธานีเป็นสนามบินนานาชาตินั้น เนื่องจากภาคอีสานมีนักท่องเที่ยว รูปแบบกรุ๊ปของหน่วยงานราชการเพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาลงสนามบินสุวรรณภูมิและต่อเครื่องลงสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อไปยังหลวงพระบาง สปป.ลาว หรือ ฮานอย ประเทศเวียดนาม ปัจจุบันมีความล่าช้า ต้องใช้เส้นทางของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น แถมไม่ได้รับความสะดวก

อนึ่งที่ผ่านมา ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันให้ท่าอากาศย่านอุดรธานีเป็นท่าอากาศยานนานาชาติสมบูรณ์แบบตั้งแต่สมัยที่ท่าอากาศยานอุดรธานีได้รับการประกาศให้เป็นสนามบินศุลกากรและยังไม่มีโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ตลอดเรื่อยมาจนท่าอากาศยานอุดรธานีมีความเจริญเติบโตและมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดและมีผู้ใช้บริการมากกว่า 22 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ท่าอากาศยานอุดรธานีมีรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากท่าอากาศยานกระบี่ เนื่องจากยังไม่มีสายการบินระหว่างประเทศมาลง

อย่างไรก็ตามอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ที่จะใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเดือนพฤศจิกายน 2559 นี้ หลังได้เปิดอาคารเมื่อเดือนกันยายน 2558 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับงบประมาณผูกพันปี 2555 -2557 วงเงิน298 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างรวมถึงการปรับขยายลานจอดให้กว้างขึ้นจากหลุมจอด 4 ลำ เป็น 11หลุมจอดโดยใช้งบประมาณ 195 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559