กทม. ติดตามสถานการณ์ปีใหม่ 2569 พร้อมดูแลสาธารณภัยและบริการการแพทย์ 24 ชม.

31 ธ.ค. 2568 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ธ.ค. 2568 | 12:24 น.

กทม. ติดตามสถานการณ์ปีใหม่ 2569 พร้อมดูแลสาธารณภัยและบริการการแพทย์ 24 ชม. พื้นที่จัดงานเคานต์ดาวน์ 14 แห่ง สวดมนต์ข้ามปี 7แห่ง

KEY

POINTS

  • กทม. จัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อติดตามสถานการณ์และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
  • มีการเฝ้าระวังพื้นที่จัดงานเคานต์ดาวน์ 14 แห่ง และสถานที่สวดมนต์ข้ามปี 7 แห่งเป็นพิเศษ โดยใช้ระบบกล้อง AI ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
  • เตรียมความพร้อมสายด่วน 199 สำหรับแจ้งเหตุสาธารณภัย และสายด่วน 1669 สำหรับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน เพื่อให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

 

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก หลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครมีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นไฮไลต์สำคัญ

“ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางช่วงปีใหม่ให้ดี หากพาเด็กไปในจุดจัดงานที่มีคนหนาแน่นให้เขียนชื่อและเบอร์ติดต่อติดตัวเด็กเพื่อป้องกันการพลัดหลง เฉลิมฉลองอย่างมีสติ ดื่มไม่ขับ และระมัดระวังอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง นอกจากนี้ ขอให้ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงที่อาจตกใจจากเสียงพลุ ดูแลปิดประตูให้มิดชิดป้องกันการพลัดหลง และผู้ขับขี่ควรระมัดระวังสัตว์ด้วย อีกเรื่องหนึ่งคือสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ซึ่งในวันนี้อยู่ในระดับสีส้มและสีเหลือง แนะนำให้กลุ่มเปราะบางสวมหน้ากากอนามัย”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝากถึงประชาชน ภายหลังตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานสถานการณ์จากที่ประชุม “กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร” ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ในวันนี้ (31 ธ.ค. 68) เมื่อเวลา 16.30 น.

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า หากจุดไหนคนเยอะและเบียดเสียดมาก แนะนำให้ถอยออกมา ไม่ควรเบียดเข้าไป เพื่อความปลอดภัยของตนเองและทรัพย์สิน

สำหรับกองอำนวยการฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยที่ประชุมได้มีการรายงานสรุปเหตุการณ์ประจำวัน ทั้งด้านการป้องกันอัคคีภัย อุบัติเหตุทางถนน และการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร

กทม. ติดตามสถานการณ์ปีใหม่ 2569

จากการรายงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในที่ประชุม พบว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเหตุเพลิงไหม้อาคาร 2 ครั้ง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ด้านอุบัติเหตุทางถนน มีอุบัติเหตุ 5 ครั้ง พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิต 3 ราย (ชาย 2 ราย หญิง 1 ราย) ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (สวมหมวกนิรภัย 1 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 2 ราย)

ขณะที่ด้านบริการประชาชน มีผู้รับบริการที่หน่วยปฐมพยาบาล ณ สถานีขนส่ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เขตตลิ่งชัน สถานีขนส่งเอกมัย เขตคลองเตย และสถานีขนส่งหมอชิต เขตจตุจักร รวม 268 ราย มีผู้รับบริการที่ “ด่านหวังดี ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ เทศกาลปีใหม่ 2569” ทั้ง 74 ด่าน ในพื้นที่ 21 เขต รวม 504 ราย ซึ่งเน้นกิจกรรมการรณรงค์ขับไม่ดื่ม บริการเครื่องดื่มและเวชภัณฑ์ รวมถึงการประเมินอาการมึนเมาเบื้องต้น

ในการนี้ ที่ประชุมได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเคานต์ดาวน์ 14 แห่ง และสถานที่สวดมนต์ข้ามปี 7 แห่ง โดยใช้ระบบกล้อง AI เพื่อติดตามสถานการณ์และเชื่อมโยงข้อมูลกับฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด ด้านจุดบริการนักท่องเที่ยวให้พิจารณาปรับเวลาการให้บริการให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติจะออกมาทำกิจกรรมในช่วงค่ำมากกว่าปกติ

สำหรับพื้นที่จัดงานเคานต์ดาวน์ 14 แห่ง ได้แก่

1. ไอคอนสยาม เขตคลองสาน

2. เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน

3. วัน แบงค็อก เขตปทุมวัน

4. ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เขตประเวศ

5. ราชมังคลากีฬาสถาน เขตบางกะปิ

6. เอ็มควอเทียร์ เขตวัฒนา

7. เอ็มโพเรียม เอ็มสเฟียร์ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เขตคลองเตย

8. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เขตบางคอแหลม

9. ช่างชุ่ย Creative Park เขตบางพลัด

10. สยามสแควร์ เขตปทุมวัน

11. สยามพารากอน เขตปทุมวัน

12. ถนนข้าวสาร เขตพระนคร

13. สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน

14. ตลาดกรีนวินเทจ รัชโยธิน เขตจตุจักร

 

พื้นที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 7 แห่ง ได้แก่

1. วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

2. วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่

3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร

4. วัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร

5. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ เขตพระนคร

6. วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่

7. วัดเบญจมบพิตร เขตดุสิต

 

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมความพร้อมสายด่วนเหตุฉุกเฉิน โดยรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้-สาธารณภัย ผ่านสายด่วน 199 หรือ 0 2224 2947 และรับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ผ่านสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนตลอดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้

ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายไทวุฒิ ขันแก้ว และนายธนิต ตันบัวคลี่ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตลอดจนผู้บริหารหรือผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง

กทม. ติดตามสถานการณ์ปีใหม่ 2569 สายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน รายงานเหตุฉุกเฉิน