GULF มอบเงิน 23 ล้าน ช่วยครอบครัวทหารผู้เสียสละชายแดนไทย-กัมพูชา
GULF ส่งมอบเงินเยียวยา 23 ล้านบาท ให้ 23 ครอบครัวทหารกล้าผู้เสียสละชายแดนไทย-กัมพูชา รวมยอดช่วยแล้ว 50 ล้าน พร้อมหนุนเทคโนโลยีรับมือชายแดน
KEY
POINTS
- บริษัท GULF มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 23 ล้านบาท แก่ 23 ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
- เงินช่วยเหลือดังกล่าวมาจาก "กองทุน 100 ล้านบาท" ที่ GULF จัดตั้งขึ้นเพื่อเยียวยาทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนโดยเฉพาะ
- การมอบเงินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างวันที่ 8–23 ธันวาคม 2568
วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่งมอบเงินช่วยเหลือ รวม 23 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวทหารกล้าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยบริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างวันที่ 8–23 ธันวาคม 2568 โดยมีพล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมเป็นสักขีพยาน
เงินช่วยเหลือครั้งนี้มาจาก “กองทุน 100 ล้านบาท” ที่ GULF จัดตั้งขึ้นเพื่อเยียวยาทหารผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดน โดยรอบนี้ครอบคลุม 23 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูญเสียจากเหตุปะทะช่วงดังกล่าว
นายสารัชถ์ กล่าวว่า GULF ในฐานะบริษัทไทยต้องการมีบทบาทสนับสนุนกองทัพทั้งด้านเทคโนโลยีและสวัสดิการกำลังพล “หน้าที่ของคนไทยคือไม่ทอดทิ้งกัน” พร้อมเปิดกว้างหากกองทัพต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยบริษัทพร้อมสนับสนุนผ่านองค์ความรู้ด้านระบบสื่อสารและดาวเทียม รวมถึงการดูแลขวัญกำลังใจของครอบครัวทหารผู้เสียสละ
ด้าน พล.อ.ชัยพฤกษ์ กล่าวขอบคุณภาคเอกชนที่ยืนเคียงข้างกองทัพ ระบุว่า ทุกการสูญเสียคือความเจ็บปวดของครอบครัวและองค์กร แต่ชื่อของผู้พลีชีพเพื่อแผ่นดินจะถูกจารึกเป็นเกียรติประวัติให้ลูกหลานจดจำ
นับตั้งแต่กองทุนฯ เริ่มดำเนินงาน ปัจจุบันมอบเงินเยียวยาครอบครัวทหารเสียชีวิตแล้ว 40 ครอบครัว เป็นเงิน 40 ล้านบาท และช่วยเหลือทหารบาดเจ็บกว่า 10.5 ล้านบาท รวมทั้งยังสนับสนุนครุภัณฑ์ทางการแพทย์กว่า 2 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ยอดการช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 50 ล้านบาท
GULF ยังเดินหน้ากิจกรรมด้านความมั่นคงและสาธารณประโยชน์ เช่น การแจกถุงยังชีพ “GULF Care” กว่า 2,000 ชุด, การสนับสนุนศูนย์พักพิงในพื้นที่ชายแดน และการประสานบริษัทในเครือเพื่อนำเทคโนโลยีการสื่อสารและระบบดาวเทียมช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยทหารในพื้นที่
บริษัทระบุว่า จะยังคงร่วมหนุนกองทัพไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ความมั่นคงเป็นรากฐานให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน