'กองทัพบก' ประณามกัมพูชาขัดหลักมนุษยธรรม ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่บ้านประชาชน

09 ธ.ค. 2568 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2568 | 05:17 น.

'กองทัพบก' ประณามการใช้อาวุธข้ามแดนของกัมพูชา ลูก BM-21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชน ย้ำเป็นการละเมิดอธิปไตยและขัดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ฝ่ายไทยพร้อมตอบโต้และควบคุมพื้นที่หลัก พร้อมอพยพประชาชนแล้วกว่า 1.25 แสนคน

KEY

POINTS

  • กองทัพบกประณามกัมพูชาที่ยิงกระสุนปืนใหญ่ข้ามแดนมาตกใส่บ้านเรือนประชาชนในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและขัดต่อหลักมนุษยธรรม
  • กองทัพกัมพูชาเปิดฉากโจมตีที่มั่นฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง โดยใช้อาวุธหนักหลายชนิด เช่น จรวด BM-21 และโดรน ซึ่งกระสุนบางส่วนได้ตกลงในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนด้วย
  • สถานการณ์สู้รบที่รุนแรงส่งผลให้ต้องมีการอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนกว่า 125,000 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

กองทัพบกไทย (Royal Thai Army) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้อาวุธข้ามแดนของฝ่ายกัมพูชาอย่างรุนแรง โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย การกระทำนี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศอย่างร้ายแรง กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และขัดต่อหลักมนุษยธรรม

เหตุการณ์ล่าสุดที่ถูกเปิดเผยโดยกองทัพบกคือ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 01.00 น. มีรายงานจากกองกำลังบูรพาว่า ลูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาได้ตกใส่บ้านเรือนราษฎรจำนวน 2 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านโคกทหาร หมู่ 5 ตำบลทัพเสด็จ จังหวัดสระแก้ว  แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ แต่การโจมตีดังกล่าวยืนยันถึงความรุนแรงของการละเมิด

'กองทัพบก' ประณามกัมพูชาขัดหลักมนุษยธรรม ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่บ้านประชาชน

กองทัพบกยืนยันว่า ฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติการภายใต้หลักสากลอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการทุกมาตรการเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทย และจะตอบสนองต่อการยั่วยุหรือการโจมตีที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างจำเป็นและเหมาะสม

สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงตึงเครียด

ด้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ( ณ เวลา 09.00 น.) ว่า ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 04.50 น. ของวันเดียวกัน

'กองทัพบก' ประณามกัมพูชาขัดหลักมนุษยธรรม ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่บ้านประชาชน

ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้ อาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และโดรนทิ้งระเบิด หรือโดรนพลีชีพโจมตีใส่ฐานและที่มั่นของฝ่ายไทยอย่างหนาแน่นในหลายแนวรบ พื้นที่ที่มีการโจมตีอย่างหนัก เช่น ช่องบก, ปราสาทตาควาย, ปราสาทคนา, ภูมะเขือ และปราสาทตาเมือนธม โดยฝ่ายกัมพูชามีความพยายามอย่างหนักเพื่อทำการยึดคืนพื้นที่เหล่านี้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กระสุน BM-21 ได้มาตกในพื้นที่บ้านเรือนประชาชนอีกด้วย

'กองทัพบก' ประณามกัมพูชาขัดหลักมนุษยธรรม ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่บ้านประชาชน

ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้อย่างเหมาะสมและเป็นไปตามแผน โดยใช้อาวุธยิงเล็งตรงและอาวุธวิถีโค้ง ซึ่งสามารถควบคุมพื้นที่หลัก และสร้างความเสียหายต่อขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันที่จะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง

กองทัพภาคที่ 2 ระบุด้วยว่า จากการสู้รบที่เกิดขึ้น ได้มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน (อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์) โดยปัจจุบันมีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วจำนวน 492 แห่ง เพื่อรองรับประชาชนรวม 125,838 คน, ขณะที่ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT-TH) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งถูกซุ่มยิงที่ฐานภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

'กองทัพบก' ประณามกัมพูชาขัดหลักมนุษยธรรม ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่บ้านประชาชน

ในส่วนของการช่วยเหลือ กรมการสัตว์ทหารบกได้สนับสนุนฟ่อนหญ้าแห้งอาหารสัตว์เลี้ยงรวม 12,000 ฟ่อน (24,000 กิโลกรัม) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ

 

นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดเผยแพร่ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลการเคลื่อนย้ายและการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลแนวหน้า และเพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติการของฝ่ายเรา