เกาะติดสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด กระเช้าเนิน 350 ถูกทำลายแล้ว

08 ธ.ค. 2568 | 02:26 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2568 | 03:07 น.

อัปเดตสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด ไทยเริ่มใช้อากาศยานถล่มเป้าหมายทางทหาร ระบุทหารเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย

KEY

POINTS

  • เกิดการปะทะรุนแรงต่อเนื่องบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ทำให้ฝ่ายไทยยิงตอบโต้และใช้เครื่องบิน F-16 โจมตีที่ตั้งอาวุธของกัมพูชา
  • กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าเป้าหมายกระเช้าบริเวณเนิน 350 ซึ่งอยู่ใกล้ปราสาทตาควาย ได้ถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว
  • การสู้รบส่งผลให้มีกำลังพลและพลเรือนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ และมีการยิงจรวด BM-

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาร้อนระอุอีกครั้ง หลังเกิดเหตุปะทะกันอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 68 เป็นต้นมา

ล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค. 68) เหตุการณ์ปะทะของหทารไทยและกัมพูชายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะอัปเดตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชารายงานให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 6. 48 น. เฟสบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า  กัมพูชาเปิดฉากยิง ในพื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราทำการยิงตอบโต้ตามกฎการปะทะ สถานการณ์ในพื้นที่ยังติดพันการรบ รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป กองทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มกำลัง

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการพื้นที่กองทัพบกที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เวลา 22.00 น. กองกําลังกัมพูชาเปิดยิงตําแหน่งไทยในพื้นที่ช่องขณาและช่องระยี ตรวจพบการเคลื่อนไหวของรถถัง T-55 กัมพูชา เข้าพื้นที่กรุงสําโรง ในจังหวัด Oddar Meanchey พลเรือนกัมพูชาได้รับการสังเกตการณ์การอพยพออกจากเขตชายแดน

เวลา 23.00 น. กองกําลังกัมพูชาได้รับการเตรียมพร้อมรบสูงสุดหลังจากการปะทะกันที่พลานหินแปดก้อน กองกําลังของพวกเขายังเพิ่มความพร้อมตามแนวชายแดนทั้งหมด สร้างตําแหน่งป้องกันเพิ่มเติม เสริมกําลังที่เข้มแข็ง ค้นหาอุปกรณ์ระเบิดในเขตความรับผิดชอบของตน เคลื่อนย้ายเหมืองที่เก็บไว้ในตําแหน่งที่ครอบคลุม ปิดเครื่อง โทรศัพท์มือถือและเตรียมรับผู้บัญชาการอาวุโสที่จะดูแลปฏิบัติการรบ พวกเขายังคงเฝ้าระวังกิจกรรมไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้ถัง โดรน และการก่อสร้างถนนใกล้แนวหน้า

เกาะติดสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด เริ่มใช้อากาศยานถล่มเป้าหมายทางทหาร

เวลา 00.00 น. ในเขตช่องบกและช่องอันมะ ตรวจพบการเคลื่อนไหวของเครื่องยิงจรวด RM-70 ของกัมพูชาเข้าสู่อําเภอจอมเกษรในจังหวัดพระวิหาร ยังพบเห็นพลเรือนชาวกัมพูชาอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน

เวลา 01.00 น. ในพื้นที่ช่องจอมและช่องเสม็ด ตรวจพบการเคลื่อนไหวของระบบจรวด BM-21 กัมพูชา และ Type-90B เข้าเขตกรุงสําโรง ในเขตออดดาร์มีนเชย มีรายงานการอพยพพลเรือนชาวกัมพูชาจากเขตชายแดนอย่างต่อเนื่อง

ณ เวลา 03.25 ชั่วโมง กองกําลังกัมพูชาได้รับการสังเกตการณ์การออกคําสั่งให้กําหนดเป้าหมายอาวุธสนับสนุนการยิงที่:

• บ้านกาชัยน้อย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน และสนามบินบุรีรัมย์ ห่างจากชายแดนประมาณ 87 กิโลเมตร

• บ้านจรูกแขว ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ห่างชายแดนประมาณ 31 กิโลเมตร

05.05 น. จนถึงปัจจุบัน ฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามกฎการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิธีโค้ง

07.00 น. ในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กองทัพบกได้รับรายงานว่าทหารไทยถูกโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุนทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

07.10 น. พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยเริ่มมีการใช้อากาศยาน กระทำต่อเป้าหมายคือที่ตั้งยิงอาวุธ สนับสนุนของฝ่าย กัมพูชา 3 พื้นที่เป้าหมาย บริเวณ ช่องอานม้า, ปราสาทคนา และเสาวิทยุพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร

เนื่องจาก เป้าหมายเหล่านั้น ได้มีการใช้อาวุธปืนใหญ่ และเครื่องบินลูกระเบิดกระทำต่อฝ่ายไทยที่บริเวณฐานอนุพงศ์ เป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บจำนวน 2 นาย

รายงานข่าวจากกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ใช้เครื่องบิน F-16 ในการสนับสนุนภาคพื้น โดยเป้าหมายอยู่ที่ปืนใหญ่ฝั่งกัมพูชาที่ยิงเข้ามาฝั่งไทย ขณะนี้กำลังปฎิบัติภารกิจ

กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและกำลังพลทุกนาย งดเผยแพร่ภาพ "ข้อมูลการปฏิบัติการทางทหาร"

เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญถูกนำไปวิเคราะห์ต่อยอด จนกระทบความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติในพื้นที่และความมั่นคงของประเทศ

สำหรับกำลังพล ทุกระดับชั้น ห้าม เผยแพร่ข้อมูลอาวุร แผนปฏิบัติ วิธีการ หรือการเคลื่อนย้ายกำลัง ห้าม ถ่ายภาพที่มีพิกัด GPS หรือเปิดเผยตำแหน่งยุทรการ แม้ข้อมูลบางอย่างอาจ “ไม่ใช่ความลับ" แต่เมื่อรวมกับข้อมูลอื่น อาจกลายเป็น "ภาพรวมยุทธการ” ที่ฝ่ายตรงข้ามนำไปใช้ได้ทันที

อย่างไรก็ดี พลเรือนประมาณ 70% ถูกอพยพแล้ว มีผู้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ 35,623 คน ณ สถานสงเคราะห์ชั่วคราว เชื่อว่าผู้ที่ไม่ได้เข้าที่พักอาศัยจะพักอาศัยกับญาติ ๆ หรือยังอยู่ในระหว่างการย้ายที่อยู่ ระหว่างอพยพในพื้นที่อําเภอน้ํายืน มีพลเรือนเสียชีวิต 1 รายขณะเคลื่อนย้าย

มีการปะทะกันอยู่พื้นที่ช่องอานม้า เนิน 677 ห้วยตามาเรีย พื้นที่คนาปราสาทตาเมือน สถานการณ์ในพื้นที่ยังติดพันการรบ

8.30 น. กัมพูชายิง BM21ใส่บ้านเรือนประชาชนฝั่งไทย บ้านสายโท 10 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

09.20 น. เพจกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า เป้าหมายกระเช้าเนิน 350 ทางด้านทิศตะวันตกปราสาทตาควาย ระยะ 300 เมตร ถูกทำลายเรียบร้อย

เกาะติดสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด กระเช้าเนิน 350 ถูกทำลายแล้ว

09.30 น. กองทัพภาคที่ 2 โพสข้อความโดยระบุว่า ขอแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง "ยกระดับมาตราการรักษาความปลอดภัย" อาคารสถานที่ราชการที่สำคัญ และป้องกัน ขัดขวาง การปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามที่มุ่งสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน กองทัพจะปกป้องประชาชนและอธิปไตยเต็มกำลัง