กรมอนามัย คาดหลังน้ำลด ขยะล้น-เสี่ยงโรคระบาด ส่งทีม SEhRT เร่งฟื้นฟู
หลังน้ำลดวิกฤตสุขาภิบาลเริ่มเผยตัว กรมอนามัยเร่งจัดการขยะ–ฆ่าเชื้อ–ดูแลตลาด พร้อมแนะประชาชนล้างบ้านอย่างถูกวิธี ป้องกันโรคระบาดหลังน้ำท่วม
KEY
POINTS
- กรมอนามัยคาดการณ์ว่าหลังน้ำลดจะเกิดปัญหาขยะจำนวนมากจากการทำความสะอาดบ้านเรือน ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
- ได้ส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) ลงพื้นที่เพื่อช่วยวางแผนบริหารจัดการขยะและฟื้นฟูด้านสุขาภิบาล
- ทีม SEhRT ได้สนับสนุนอุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ และให้คำแนะนำประชาชนในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู ท้องร่วง และโรคผิวหนัง
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย มอบหมายให้ นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่น้ำท่วม เพื่อวางแผนการบริหารจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม พร้อมทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ ศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี
ในขณะที่ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช และ ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ยังปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ โดยจัดแบ่งพื้นที่การดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ของภาคการสาธารณสุข คือ โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลหาดใหญ่ ศูนย์พักพิงชั่วคราว
และพื้นที่สาธารณะ ได้แก่ ชุมชน ครัวเรือน ระบบประปา รวมทั้ง ประเมิน สำรวจ เฝ้าระวังด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม จำแนกเป็น เขียว เหลือง แดง และรายงานผ่านพื้นที่บัญชาการ เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ สรุปและประเมินสถานการณ์ในการดำเนินงานแต่ละวัน
นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบความเสียหายของข้าวของและอาคารบ้านเรือน ส่งให้ปริมาณขยะขณะนี้มีจำนวนมาก ประชาชนในพื้นที่เริ่มทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านหลังน้ำลด
กรมอนามัยจึงสนับสนุนชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง รองเท้ายาง และเตรียมวัสดุทำความสะอาด เช่น ถุงดำ น้ำยาฆ่าเชื้อ สารส้ม คลอรีนน้ำ และ แนะนำวิธีการป้องกันตนเองให้ประชาชนเตรียมพร้อมก่อนเริ่มทำความสะอาด
สำหรับการจัดการขยะ ทีม SEhRT กรมอนามัย ได้วางแผน สำรวจและร่วมบริหารจัดการขยะร่วมกับพื้นที่ กำหนดจุดรวมขยะ กำชับให้เก็บขนทิ้งไม่ตกค้าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น ท้องร่วง ไข้ฉี่หนู และโรคผิวหนัง รวมทั้ง ลดกลิ่นและแมลงพาหะ เช่น แมลงวัน หนู ยุง และแมลงสาบ ที่สำคัญยังช่วยให้ท้องถิ่นทำปฏิบัติงานได้รวดเร็วขึ้น
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การจัดการบ้านหลังน้ำลด กรมอนามัยแนะนำการล้างบ้านด้วยการฆ่าเชื้อ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา สามารถใช้คลอรีนน้ำ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และสวมหน้ากากป้องกันเชื้อโรค ระหว่างทำความสะอาดให้ระบายอากาศ ด้วยการเปิดประตูหน้าต่าง ใช้พัดลม หรือเครื่องระบายอากาศ
นอกจากนี้ ทีม SEhRT กรมอนามัย ยังได้สนับสนุนคลอรีนน้ำ น้ำยาฆ่าเชื้อ และหน้ากากอนามัย ที่สำคัญ กรมอนามัยยังให้ความสำคัญกับตลาด ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าทั้งของกินและของใช้ โดยแนะนำให้เร่งทำความสะอาดอาคารรางระบายน้ำ พื้น แผงที่จำหน่ายอาหาร ห้องน้ำ ห้องส้วม ก่อนเปิดตามปกติ เพื่อความปลอดภัย
รวมทั้งดูแลส่งงเสริมสุขภาพกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ทั้ที่อยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวชั่วคราวและที่กำลังกลับเข้าที่พักอาศัย