จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ 21 พฤศจิกายน 2568 นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ใกล้ชิด และมอบหมายการปฏิบัติให้นายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมตลิ่ง รวมถึงบริเวณพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก
ข้อมูลอัปเดตล่าสุด (21พ.ย.68)พบพื้นที่ประสบภัยรวม 7 อำเภอ อำเภอรัตภูมิ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอหาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 28 ตำบล 159 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,886 ครัวเรือน 44,958 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และเสียหายบางส่วน 3 หลัง รพสต. 1 แห่ง และถนนได้รับผลกระทบ 6 สาย
เทศบาลนครหาดใหญ่แจ้งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลฯสามารถเข้ารับ “กระสอบทราย” ได้ฟรี โดยเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้ามารับกระสอบทรายได้ทุกเวลา จำนวน 2 จุด ได้แก่
โดยนำหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง ซึ่งประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่สามารถเดินทางไปรับได้ทันทีในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องเพื่อใช้ในการป้องกันน้ำเข้าบ้าน และช่วยลดความเสียหายจากฝนตกหนักและเพิ่มความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ
อนึ่งสถานการณ์น้ำเช้าวันนี้ (21 พ.ย.68) ในอ.หาดใหญ่ ปริมาณน้ำฝน วัดได้ 49 มม. สถานการณ์ระดับน้ำในคลองสายหลัก ทั้ง คลอง ร.1 และคลองอู่ตะเภา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบมี 5 ตำบล คือ ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งทำเสา ตำบลคูเต่า ตำบลบ้านพรุ ตำบลทุ่งใหญ่
เทศบาลนครสงขลา ได้ปักธงแดงพร้อมป้าย “ห้ามลงเล่นน้ำทะเล – DANGEROUS DO NOT SWIM” ตลอดแนวชายหาดสมิหลา เพื่อห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในช่วงนี้ ขณะเดียวกันบริเวณทิวสนริมชายหาดชลาทัศน์ ยังมีการติดป้ายเตือน “ระวังต้นสนล้ม” เนื่องจากลมแรงอาจทำให้ต้นสนโค่นล้ม หรือเกิดกิ่งหักที่เป็นอันตรายต่อผู้มาใช้พื้นที่พักผ่อน โดยเฉพาะในช่วงฝนฟ้าคะนอง
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอระโนด รายงานว่าปริมาณน้ำฝนวัดได้ 158.7 มิลลิเมตร ขณะที่ระดับน้ำในคลองระโนดอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อ 12 ตำบล 73 หมู่บ้าน ได้แก่ แดนสงวน ตะเครียะ บ่อตรุ วัดสน คลองแดน ปากแตระ บ้านใหม่ ท่าบอน บ้านขาว พังยาง ระโนด และระวะ ประชาชนได้รับผลกระทบรวมกว่า 14,900 ครัวเรือน หรือประมาณ 37,000 คน
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ หากฝนไม่ตกเพิ่ม ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ คาดว่าจะลดลงและคลี่คลายภายใน 7 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ติดทะเลสาบสงขลา เช่น ตำบลระโนด บ้านใหม่ ตะเครียะ และบ้านขาว ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านการช่วยเหลือ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมจัดเรือท้องแบนอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด–กระแสสินธุ์ เร่งสูบน้ำในลำคลองระบายลงทะเลสาบสงขลา พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 มีการเตรียมความพร้อมรับมือ หลังเกิดฝนที่ตกหนักตั้งแต่คืนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 โดยในเวลา เวลา 08.00 น. วัดปริมาณน้ำฝนได้ 84.5 มิลลิเมตร ระดับน้ำคลองเชิงแสอยู่ที่ 0.97 ม.รทก. และระดับน้ำทะเลสาบสงขลาอยู่ที่ 0.87 ม.รทก. ส่งผลให้สามารถเปิดประตูระบายน้ำจากทุกสายคลองลงสู่ทะเลสาบได้อย่างสะดวก เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ พบฝนลดลงเหลือเพียงฝนปรอยเป็นช่วง ๆ ทำให้สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีพื้นที่ท่วมขังในบางหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด–กระแสสินธุ์ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมในหลายจุด ดังนี้
แนวโน้มสถานการณ์ ขณะนี้ลำคลองทั้ง 11 สายสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ดี คาดว่าหากไม่มีฝนตกต่อเนื่องและระดับน้ำทะเลสาบไม่หนุนสูง สถานการณ์จะไม่รุนแรงภายใน 1–2 วันนี้
อำเภอรัตภูมิ รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภายหลังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยวัดปริมาณน้ำฝนได้ 90 มิลลิเมตร (ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึงเวลา 07.00 น. ของวันนี้) ขณะเดียวกันระดับน้ำบริเวณฝายชะมวงเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ เตือนภัยสีแดง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 177.083 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง
สถานการณ์น้ำท่วม กระจายครอบคลุมทั้ง 5 ตำบล 63 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 1,875 ครัวเรือน รวม 5,345 คน อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 07.00 น. มวลน้ำในลำคลองเริ่มมีแนวโน้มลดลง แต่ยังส่งผลต่อเส้นทางจราจรสายหลัก โดยเฉพาะถนน ทล.406 (ถนนยนตรการกำธร) ช่วงสตูล–สี่แยกคูหา ตั้งแต่แยกไฟแดงวัดใหม่ทุ่งคาถึงหน้าบริษัทอีซูซุรัตภูมิ มีน้ำท่วมผิวจราจร รถไม่สามารถสัญจรได้ โดยหมวดทางหลวงควนรูได้ติดตั้งป้ายเตือนและแนะให้ใช้เส้นทางผ่านหน้าวัดใหม่ทุ่งคาแทน และช่วงสี่แยกคูหา–สตูล ตั้งแต่บริษัทอีซูซุรัตภูมิถึงแยกไฟแดงวัดใหม่ทุ่งคา มีน้ำท่วมผิวทางบางส่วน รถสัญจรได้เพียง 1 เลน และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ทั้งนี้นายอำเภอรัตภูมิได้สั่งการให้ศูนย์เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง รวมถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งดำเนินการแจกจ่ายกระสอบทรายให้ประชาชนแล้วจำนวน 5,000 กระสอบ รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงจำนวน 4 เครื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบและเตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา บางพื้นที่เริ่มมีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ด้านนายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอควนเนียงกำชับให้ติดตามสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
สถานการณ์ในพื้นที่อำเภอนาทวี ขณะนี้ยังคงมีฝน ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณฝน (ตั้งแต่เวลา 07.00 น. จนถึงเวลา 14.00 น.ของวันนี้ ) สถานีนาทวี วัดได้ 102.0 มม. สถานี ปตร.ปลักปลิง วัดได้ 90.0 มม. สถานีอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง 30.0 มม. ปริมาณน้ำคลองนาทวี (ปตร.ปลักปลิง ) ม.4 ต.นาทวี อ.นาทวี ระดับน้ำหน้า ปตร. 20.58 ม.รทก ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.72 ม. ระดับน้ำต่ำกว่าระดับเตือนภัย 0.42 ม. สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะปกติ เเต่ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
สถานการณ์น้ำภาพรวม ยังมีฝนตกหนัก สลับปานกลางอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังน้ำในคลองนาทวี และมวลน้ำจากเทือกเขาทางทิศใต้ (บริเวณ ต.ประกอบ และอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ต.คลองกวาง, ต.ทับช้าง) อย่างใกล้ชิด ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มีจำนวน 33 ครัวเรือน คือ บ้านคอกช้าง ม.6 ต.ฉาง 2 ครัวเรือน บ้านลำชิง ม.2 ต.คลองทราย 20 ครัวเรือน บ้านต้นไทร ม.2 ต.ปลักหนู 2 ครัวเรือน บ้านพลีใต้ ม.3 ต.นาทวี 6 ครัวเรือน บ้านทุ่งแหลกลาง ม.3 ต.นาทวี 3 ครัวเรือน
ทั้งนี้ทางศูนย์บัญชาการฯ อำเภอนาทวี ได้ส่งสมาชิก อส.อ.นาทวี ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และขนย้ายข้าวของของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเข้าที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนน้ำขังพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ บ้านโคกแค ม.3 ต.ปลักหนู และบ้านต้นไทร ม.2 ต.ปลักหนูมีน้ำขังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ขาออก ช่วงบริเวณ ม.3 ต.นาทวี (บริเวณโรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์) ระยะประมาณ 150 เมตร ขณะนี้รถเล็กสามารถสัญจรได้ปกติ ทางอำเภอนาทวีร่วมกับหมวดทางหลวงจัดตั้งป้ายแจ้งเตือน และเสาเตือนภัยกั้นเพื่อบอกระยะแก่ผู้สัญจรพร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าเข้าติดตามตรวจสอบดูแลสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ฝนตกในพื้นที่อำเภอสะเดา วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. ขณะนี้ยังพบฝนตกหนักบางพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มเอ่อล้นบริเวณพื้นที่ใกล้คลอง แต่ยังไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนหรือทรัพย์สินของประชาชน
สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา (เขื่อนห้วยคู) เช้าวันนี้ ระดับน้ำอยู่ที่ 61.20 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำ 18.551 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเปิดระบายน้ำ 12 เซนติเมตร ปริมาณฝนสะสม 17.2 มิลลิเมตร คิดเป็นร้อยละ 32.69 ของความจุอ่าง ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในคลองสายหลักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะคลองอู่ตะเภาต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์น้ำในพื้นที่จากฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและลำคลองหลายจุดเพิ่มสูงขึ้น โดยอ่างเก็บน้ำคลองหลามีระดับน้ำ 43.35 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำ 10.52 ล้านลูกบาศก์เมตร เปิดประตูระบายน้ำปากคลอง 7 เซนติเมตร ปริมาณฝน 23 มิลลิเมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองจำไหร ระดับน้ำอยู่ที่ 42.500 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำ 2.850 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างปิดสนิท เปิดทรบ.ปากคลอง 20 เซนติเมตร มีปริมาณฝนสะสม 81.5 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบสถานการณ์น้ำในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ คลองอู่ตะเภา บริเวณวัดบางศาลา ม.7 ต.ทุ่งลาน, คลองโคกม่วง ม.9 ต.โคกม่วง, คลองต้นประดู่ ม.9 ต.โคกม่วง, สะพานรวมใจ ม.2 ต.ทุ่งลาน แลพสะพานทุ่งลาน–ทุ่งลุง ม.1 ต.ทุ่งลาน
จากการสำรวจพบว่าระดับน้ำในลำคลองหลายจุดเพิ่มสูงขึ้น บางพื้นที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มและพื้นที่ริมคลองในตำบลโคกม่วง ส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนี้
สถานการณ์ในพื้นที่อำเภอคลองหอยโข่งยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีฝนตกหนักในหลายจุด ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกในระยะต่อไป
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ด้านอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์น้ำ ประจำวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 โดยในหลายพื้นที่ของยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน มีการวัดปริมาณฝนจากสถานีต่าง ๆ ดังนี้ สถานีบ้านควนหัวช้าง วัดได้ 51.0 มม. สถานีบ้านควนไม้ไผ่ วัดได้ 142 มม. ส่วนสถานีจะนะ วัดได้ 161.6 มม. ขณะที่ปริมาณฝนสูงสุดในรอบวันอยู่ที่สถานีจะนะ ซึ่งทำให้มวลน้ำไหลลงสู่คลองและพื้นที่ลุ่มในหลายตำบลอย่างรวดเร็ว
สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบ น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวม 738 ครัวเรือน ในพื้นที่ 13 ตำบล ได้แก่
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ด้านอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อำเภอเทพา รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 16.00 น. วันนี้ (21 พ.ย. 68) วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 234 มิลลิเมตร จัดเป็นระดับฝนตกหนักมากด้านปริมาณน้ำท่า บริเวณสถานีสะพานเทพาสันติสุข พบว่ามีน้ำปริมาณมาก ระดับน้ำอยู่ที่ 1.23 เมตร ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 1.20 เมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน กลุ่มเมฆฝนยังคงปกคลุมพื้นที่ต่อเนื่อง และจากประกาศเตือนภัยระบุว่าจะมีฝนตกหนักไปจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ หากเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนร่วมด้วย อาจทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะลุ่มน้ำบริเวณคลองเทพา
ในส่วนความเสียหาย พบว่าน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 6 ตำบล 19 หมู่บ้าน รวม 265 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ได้ส่งข้อความCell Broadcast วันที่ 20 -21พ.ย.68 แจ้งเตือนฝนตกหนักในหลายจุด โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 21 พ.ย.68
วันที่ 20 พ.ย.68
ที่มาข้อมูล-ภาพ