สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน

13 พ.ย. 2568 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ย. 2568 | 08:30 น.

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กางแผนลดการระบายน้ำต่อเนื่องทุกเขื่อน พร้อมย้ำ"เขื่อนภูมิพล"ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดสปิลเวย์ Spillway ออกสู่ท้ายน้ำ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568  นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนภูมิพล โดยยืนยันว่า การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีความจำเป็นต้องเปิดอาคารระบายน้ำล้น (Spillway) ออกสู่ท้ายน้ำ ตามที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ 

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบันของเขื่อนภูมิพล (ข้อมูลวันที่ 13 พ.ย. 68) มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 13,406 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 99.59% ของความจุเก็บกัก ซึ่งเป็นปริมาณน้ำสูงสุดของปีนี้ โดยเมื่อวานนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ จำนวน 65 ล้าน ลบ.ม. และมีแผนการระบายออกอยู่ที่ 55 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ สทนช. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันบริหารจัดการน้ำในเขื่อนภูมิพลอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากวันนี้ไปสถานการณ์น้ำของเขื่อนภูมิพลจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง  

"เขื่อนภูมิพลมีการระบายน้ำล่วงหน้าไปแล้วกว่า 5,300 ล้าน ลบ.ม. นับตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ว่างรองรับน้ำได้อย่างเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางการระบายน้ำล้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพของทุกหน่วยงานตามนโยบายของรัฐบาล ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า การบริหารจัดการน้ำดังกล่าวอยู่ในแผนและเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมได้ โดยไม่มีความจำเป็นต้องเปิดอาคารระบายน้ำล้นเหมือนกับปี 2554 เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน และเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการกำหนดแผนการลดการปรับลดการระบายน้ำออกจากเขื่อนภูมิพล โดยจะทยอยลดลงจาก 55 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ลงเหลือเพียง 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ภายในวันที่ 22 พ.ย.นี้ "

สทนช.กางแผนลดการระบายน้ำต่อเนื่องทุกเขื่อน ย้ำ"เขื่อนภูมิพล"ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดสปิลเวย์ Spillway ออกสู่ท้ายน้ำ

นอกจากนี้ การบูรณาการบริหารจัดการน้ำยังรวมถึงเขื่อนต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วย โดยมีการลดการระบายน้ำที่เขื่อนสิริกิติ์ และการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำสะแกกรังควบคู่กันไป รวมทั้ง ในวันนี้ได้มีการลดการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็น 136 ลบ.ม.ต่อวินาที และเพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวมกัน 10 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบภาพรวมทั้งระบบ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาไม่เพิ่มขึ้นและไม่จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ 

ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำที่ 2,900 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับให้คงอัตราการระบายดังกล่าว เพื่อไม่ไปซ้ำเติมผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ

แผนผังการระบายน้ำ

ขณะที่สถานการณ์น้ำรายลุ่มน้ำประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ดังนี้ 

สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน สทนช.ย้ำไม่เปิดสปิลเวย์เขื่อนภูมิพล พร้อมกางแผนลดการระบายน้ำในเขื่อน สถานการณ์น้ำรายลุ่มน้ำประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568