SPU ก้าวสู่มหาวิทยาลัย Gen Z พร้อมพัฒนาหลักสูตรเจาะกลุ่ม Gen Alpha

18 ต.ค. 2568 | 20:15 น.

SPU คว้า “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ 2568” ก้าวสู่มหาวิทยาลัยครองใจ Gen Z พร้อมเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรเจาะกลุ่ม Gen Alpha สร้างบัณฑิตที่พร้อมทำงานจริง เป็นผู้นำแห่งอนาคต

KEY

POINTS

  • ม.ศรีปทุม (SPU) ปรับตัวเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับ Gen Z โดยใช้หลักสูตรที่ยืดหยุ่นและบูรณาการเทคโนโลยี AI ทำให้เป็นที่ยอมรับและมีบัณฑิตกว่า 95% ได้งานทำทันที
  • ประกาศวิสัยทัศน์ก้าวสู่มหาวิทยาลัย Gen Alpha พร้อมพัฒนาระบบนิเวศ AI ภายใต้แนวคิด “Personal Life Design” เพื่อช่วยนักศึกษาออกแบบการเรียนรู้และอาชีพเฉพาะบุคคล
  • ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงด้วยโครงการ “Earn to Learn” ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาทำงานกับภาคธุรกิจและสร้างรายได้ระหว่างเรียน

ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) กล่าวว่า SPU เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ 2568 ด้านองค์กรนวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ตอกย้ำบทบาทการเป็น Dynamic University ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบนิเวศนวัตกรรมการศึกษา ด้วยแนวคิด Dynamic University  และ Innovator of Professional Development 

เน้นการพัฒนาหลักสูตรเชิงบูรณาการ มีความยืดหยุ่นสูง (Flexibility) และปรับเปลี่ยนได้ (Dynamic) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เต็มรูปแบบ เพื่อยกระดับศักยภาพผู้เรียน บุคลากร และองค์กรให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัล จึงทำให้ SPU กลายเป็นมหาวิทยาลัย “ขวัญใจ Gen Z”กว่า 70% ของนักศึกษาใหม่ของ SPU เลือกสมัครเรียนก่อนประกาศผล TCAS ตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพและแนวทางการสอนของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี

“บัณฑิต SPU กว่า 95.12% มีงานทำทันทีหลังเรียนจบ สะท้อนถึงคุณภาพของการจัดการศึกษาและความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจที่ให้การยอมรับ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ยอดนักศึกษาใหม่เพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 5 ปี เท่า แสดงถึงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดอุดมศึกษาไทย โดยมีปัจจัยสำคัญคือ หลักสูตรที่ตอบโจทย์อนาคต ที่การเชื่อมโยงกับตลาดแรงงานจริง รวมถึงภาพลักษณ์มหาวิทยาลัยที่สร้างความเชื่อมั่นได้ในกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครอง”

SPU ก้าวสู่มหาวิทยาลัย Gen Z พร้อมพัฒนาหลักสูตรเจาะกลุ่ม Gen Alpha

นอกจากนี้ SPU ยังประกาศวิสัยทัศน์การก้าวสู่ Gen Alpha University ที่ผสาน เทคโนโลยี นวัตกรรม และเครือข่ายอุตสาหกรรม อย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างบัณฑิตที่ไม่เพียงพร้อมทำงานจริง พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมและธุรกิจ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษากลับมาเรียนใหม่ ผ่านโครงการ Welcome Back

ดร.รัชนีพร กล่าวว่า หัวใจสำคัญของ SPU คือการพัฒนา AI Ecosystem ภายใต้แนวคิด “Personal Life Design” ที่ช่วยให้นักศึกษาออกแบบการเรียนรู้และเส้นทางชีวิตเฉพาะบุคคล ผ่าน AI 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่

  • พี่เปอร์ : AI วิเคราะห์บุคลิกภาพ (MBTI) เพื่อค้นหาตัวตน ความชอบ และแรงบันดาลใจ
  • พี่ฟิว : AI ที่ช่วยแนะนำรายวิชา–Future Skill ให้ตรงกับเป้าหมายและความถนัด
  • พี่จ็อบ : AI เชื่อมโยงข้อมูลนักศึกษากับตลาดแรงงานจริง ค้นหาโอกาสการทำงาน และสร้างรายได้ระหว่างเรียน ผ่านความร่วมมือกับกว่า 3,000 บริษัทพันธมิตร

โดย AI ทั้งสามตัวทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1 ของนักศึกษา ทำให้ SPU สามารถออกแบบการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างเต็มรูปแบบ เป็นการพลิกโฉมการศึกษาไทยเข้าสู่มาตรฐานใหม่ ซึ่วความสำเร็จนี้ยังถูกต่อยอดสู่เวทีนานาชาติ เมื่อโครงการ AI ของ SPU ได้ผ่านเข้ารอบ QS Reimagine Education Awards ประเภท AI in Education จากกว่า 1,600 ผลงานทั่วโลก ที่จะประกาศผลในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

SPU ก้าวสู่มหาวิทยาลัย Gen Z พร้อมพัฒนาหลักสูตรเจาะกลุ่ม Gen Alpha

นอกจาก AI แล้ว SPU ยังสร้างโครงการ Earn to Learn ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาเรียนรู้จากโจทย์จริงในภาคธุรกิจและสร้างรายได้ระหว่างเรียน เช่น

  • Sim Agency – เอเจนซี่กิจกรรมและประชาสัมพันธ์ โดยนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์
  • Rub Job – แพลตฟอร์มรวมฟรีแลนซ์คุณภาพ โดยนักศึกษา SPU
  • Bus Work – แพลตฟอร์มธุรกิจที่เชื่อมโยงนักศึกษากับโอกาสทำงานจริง
  • D Club – ศูนย์สร้างสรรค์ดิจิทัลมีเดีย รับงานจริงจากภายนอก
  • B Unit & BIM Club – บริษัทจำลองด้านสถาปัตย์–วิศวกรรม เปิดโอกาสให้นักศึกษาออกแบบและทำงานจริง

ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางของ SPU ที่ไม่เพียงสร้างทักษะ แต่ยังสร้างโอกาสและรายได้ให้กับนักศึกษา สร้างบัณฑิตที่พร้อมทำงานจริง พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต ซึ่งตั้งอยู่บนผลสัมฤทธิ์ที่พิสูจน์ได้