สืบเนื่องจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายจังหวัดทั่วไทยและอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากได้
ล่าสุดกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่
ตาก พะเยา ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุบลราชธานี ขอนแก่น ระยอง จันทบุรี และ ตราด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระหว่างวันที่ 22 - 26 กันยายน 2568
ภาคเหนือ
ภาคกลาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออก
ทั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยาธรณีเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัย และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์แผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ
อนึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์ฝนรายวัน (ล่วงหน้า 10 วัน)ระหว่างวันที่ 22 ก.ย.-1 ต.ค.68 ฝนที่ตกในระยะนี้ ยังมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ประกับมรสุมมีกำลังปานกลาง ร่องมรสุมยังสวิงขึ้นลงอยู่บ้าง เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมขังในชุมชนเมือง น้ำล้นตลิ่ง และประชาชนที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังต้องระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนภาคใต้อาจมีฝนน้อยกว่าภาคอื่นๆ เมื่อลิ่มความกดอากาศสูงแผ่ขึ้นมาสูง และดันให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้น ระยะนี้ยังมีการก่อตัวของพายุถี่ขึ้น ติดตามเป็นระยะๆ