วันที่ 10 กันยายน 2568 เกิดเหตุสลดกลางสวนสัตว์ดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยฝูงสิงโตได้รุมขย้ำเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันนี้ เกิดเหตุสิงโตในสวนสัตว์ชื่อดังในกทม. ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าผู้ที่เสียชีวิตเป็นพนักงานของสวนสัตว์ เป็นชายอายุประมาณ 58 ปี โดยก่อนเกิดเหตุคาดว่าได้ทำสิ่งของตก จึงได้ลงจากรถไปเก็บของ ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับสิงโต และเมื่อหันหลังก็ถูกสิงโตทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะที่เกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์และพยายามช่วยเหลือด้วยการบีบแตรและตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่สวนสัตว์คนอื่นๆได้เข้ามาช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล และพบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสน.คันนายาว รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ
อัปเดตล่าสุด เมื่อเวลา 18.41 น.บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน)ได้ออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเนื้อหาระบุว่า "ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง"
ตามที่ปรากฏข่าวเหตุการณ์อุบัติเหตุกับเจ้าหน้าที่ประจำโซนสิงโตในสวนสัตว์เปิด บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอเรียนว่าพนักงานผู้ปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะให้การดูแลและสนับสนุนครอบครัวอย่างสุดความสามารถ
จากการตรวจสอบสิงโตและสัตว์ทุกชนิดอยู่ในสภาวะปกติ และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน บริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและพนักงานทุกคน โดยเน้นย้ำเรื่องการไม่ลงจากรถระหว่างการเที่ยวชมสวนสัตว์เปิด โดยเฉพาะในโซนสัตว์ดุร้าย
บริษัทฯ จะดำเนินการ ตรวจสอบและเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
ทางด้านกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งพักโซนสัตว์ดุร้าย “ซาฟารีเวิลด์” พร้อมสั่งเร่งทบทวนมาตรการความปลอดภัยตรงตามแจ้งหรือไม่
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้พักการให้บริการซาฟารีโซนสัตว์ดุร้าย ของสวนสัตว์เป็นการชั่วคราว พร้อมสั่งให้สวนสัตว์เร่งจัดทำแผนมาตรการด้านความปลอดภัยใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
กรมอุทยานฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างเข้มงวด แม้สวนสัตว์จะได้รับอนุญาตให้เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กรมฯ จะตรวจสอบว่าการครอบครองสิงโตจำนวน 32 ตัวที่เหลืออยู่เป็นไปตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หรือไม่ และให้สวนสัตว์ส่งแผนมาตรการด้านความปลอดภัยมาพิจารณาภายใน 2 วัน นอกจากนี้ กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสวนสัตว์เปิดอีก 5 แห่งทั่วประเทศ จากเดิมที่ตรวจทุก 1-3 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
ด้านนายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวเสริมว่า กรมฯ จะนำมาตรการ 23 ข้อสำหรับสวนสัตว์มาทบทวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องแนวเขตป้องกันระหว่างคนกับสัตว์ และการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยง ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ลงจากรถขณะเกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (CITES) ชี้แจงว่า สิงโตที่ก่อเหตุมีอายุมากกว่า 20 ปี และแม้เจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะคุ้นเคยกับสัตว์ แต่สัตว์ทุกชนิดก็ยังมีสัญชาตญาณความเป็นผู้ล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับสัตว์ดุร้ายต้องตระหนักถึงจุดนี้เสมอและไม่ควรหันหลังให้สัตว์ เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก (ดุร้าย) สัญชาตญาณของสิงโตไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของ “นักล่า” แต่เป็นพฤติกรรมธรรมชาติที่สิงโตต้องมีเพื่อความอยู่รอด แม้ในสิงโตเลี้ยง (captivity) ที่มีอาหารพร้อม แต่ก็ยังคงแสดงออก เช่น ไล่จับของเล่น ขย้ำเหยื่อจำลอง