วันที่ 6 ก.ย. 68 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 ณ คลองชองกเยชอล ซึ่งนับเป็นการจัดงานต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี (ไม่นับรวมช่วงโควิด19 ระบาด)
นายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในการเปิดงานพร้อมกล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ไทย–เกาหลีที่ยืนยาวกว่า 7 ทศวรรษ เป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์” ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และนวัตกรรม
เทศกาลปีนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเกาหลีใต้และนักท่องเที่ยวได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ไทยครบทุกมิติ ตั้งแต่การร่ายรำไทยชั้นสูง, มวยไทย, อาหารไทย, นวดแผนไทย ไปจนถึงความบันเทิงสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง T-POP และกิจกรรมแฟนมีตกับศิลปินไทยชื่อดัง ซึ่งสะท้อนพลังสร้างสรรค์และความร่วมสมัยของไทย
ด้านนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เปิดเผยถึงความพิเศษของงาน Sawasdee Seoul Thai Festival 2025 ว่า การจัดงานในปีนี้มีความแตกต่างจากปีก่อน เพราะได้ขยายพื้นที่จัดงานเป็น 2 เท่า ทำให้ร้านค้าที่เข้าร่วมก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเช่นกัน
โดยในปีนี้มีการจัดพิธีเปิดใหญ่ นำโดย บัวขาวบัญชาเมฆ และขบวนพาเรด Soft Power ของไทยราว 400 คน ประกอบด้วยนักฟ้อนรำนาฏศิลป์ไทยเกือบ 100 คน และวงดุริยางค์ ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ตระการตา
ขณะเดียวกันยังมีการเปิดตัว “Innovation Zone” เพื่อนำเสนอผลงานของ Start-Up ไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีด้านการแพทย์สำหรับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงนวัตกรรมเพื่อชีวิตประจำวัน
และสำหรับในการจัดงานเวทีหลักยังคงนำเสนอ T-Pop ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power สำคัญของไทย โดยติดต่อศิลปินมากความสามารถมาทำการแสดงสด ณ เวทีหลักคลองชองกเยชอล อาทิ อิ้งค์ วรันธร, อัลลี่ (Ally) , Perses, No one else และ Serious Bacon เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดการ Sawasdee Seoul 2025 ในปีนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 60,000 คน ในช่วง 2 วันของการจัดงาน คือวันที่ 6-7 ก.ย. 68 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ตำรวจกรุงโซลประเมินไว้ราว 50,000 คนในช่วง 2 วัน
“เราได้ขยายจำนวนบูธจากเดิม 34 เป็น 75 บูธ และใช้พื้นที่จัดงานกว้างขึ้นถึง 2 เท่า ถือเป็นงานขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโซลที่ทางการเกาหลีให้ความสำคัญเรื่องมาตรการความปลอดภัยเป็นพิเศษ”
สำหรับกิจกรรมภายในงาน นอกจากการแสดง T-Pop แล้ว ยังมีการประกวดร้องเพลง, การประกวดตำส้มตำ กิจกรรมร่วมสมัย การแสดงผสมผสานระหว่างมวยไทยกับเทควันโด และบูธอาหารไทยที่จนกันมาแบบจัดเต็ม
นอกจากนี้ยังมี การโปรโมทเมืองน่าเที่ยว และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของไทย นอกจากเมืองที่ชาวต่างชาติคุ้นเคย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตแล้ว ยังมีผู้แทนจากจังหวัดสุโขทัย ขอนแก่น และพัทยา มานำเสนอเสน่ห์การท่องเที่ยวท้องถิ่น
สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจ นั้น นายธานีกล่าวว่า การจัดงานในเดือนกันยายนซึ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวของเกาหลี จะช่วยกระตุ้นความสนใจให้ชาวเกาหลีเดินทางท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่น คาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด19 ระบาด ซึ่งปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางเข้าไทยเกือบ 2 ล้านคน โดยกว่า 70-80% เคยมาเที่ยวไทยอย่างน้อย 1 ครั้ง ในขณะที่บางรายมาแล้วถึง 2-3 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของงานปีนี้คือการกระตุ้นให้คนเกาหลีรุ่นใหม่และคนไทยในเกาหลีที่มีอยู่ราว 200,000 คนตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในฐานะผู้เข้าชม ผู้ร่วมเดินขบวนพาเหรด รวมถึงการแสดงนาฏศิลป์และบูธบริการต่างๆ อีกด้วย
สำหรับงาน Sawasdee Seoul 2025 จัดขึ้นวันที่ 6-7 กันยายน 2568 ณ คลองชองกเยชอน (ชองกเยพลาซ่า) ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 21.00 น.