กรมชลประทานได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยคาดว่าในช่วง 3 วันข้างหน้า จะมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 1,200 – 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณมาก ซึ่งจากการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังพบว่าในระยะนี้ ยังคงมีฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วง 1-3 วันข้างหน้า คาดว่าในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,650-1,850 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำสาขา อีกประมาณ 100 ลบ.ม./วินาที จะทำให้มีปริมาณน้ำสะสมบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ประมาณ 1,750-1,950 ลบ.ม./วินาที
กรมชลประทานจึงจำเป็นต้อง เพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,200 - 1,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 10 - 90 เซนติเมตร ทั้งนี้พื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบได้แก่
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปภ.ได้ประสาน 10 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”