ฝนยังถล่มทั่วไทย น้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ “พิษณุโลก-อีสาน-ใต้”

03 ส.ค. 2568 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ส.ค. 2568 | 08:07 น.

เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่! เสี่ยงฝนหนักต่อเนื่อง ฝนสะสม-น้ำหลากยังน่าห่วง เหนือ-อีสาน-ใต้ ต้องจับตาระดับน้ำเพิ่มสูง

ประเทศไทยยังคงเผชิญสถานการณ์น้ำที่น่ากังวลจากฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ รายงานของคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยม เขตอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังคงล้นตลิ่ง และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำโขงในหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ฝนยังถล่มทั่วไทย น้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ “พิษณุโลก-อีสาน-ใต้”

ปริมาณฝนที่ตกสะสมในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการกระจายตัวของฝนเล็กน้อยถึงปานกลางทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งมีฝนตกหนักในหลายจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ชุมพร พังงา และสงขลา รวมถึงบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างกาฬสินธุ์

จากการติดตามระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก พบว่าในภาคเหนือและภาคตะวันออกยังมีระดับน้ำน้อยถึงปานกลาง แต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เริ่มมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นล้นตลิ่งในบางจุด เช่น แม่น้ำอิง จังหวัดพะเยา แม่น้ำยม จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำเลย จังหวัดเลย ห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ห้วยแคน จังหวัดนครพนม ห้วยบังอี่ จังหวัดมุกดาหาร และห้วยปากแซง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลันหากฝนยังตกต่อเนื่อง

ในส่วนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 47,176 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 67% ของความจุ โดยเขื่อนที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ เขื่อนทับเสลา เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนคลองสียัด

สำหรับการคาดการณ์ในช่วงวันที่ 3 - 5 สิงหาคม 2568 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง จะทำให้ฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกลดลงบ้าง แต่ยังคงมีฝนตกหนักในบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีโอกาสเกิดฝนตกหนักเช่นกัน

 

ด้านสถานการณ์ทางทะเล คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 – 2.5 เมตร ขณะที่อ่าวไทยคลื่นสูง 1 – 2 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง

หน่วยงานด้านน้ำและอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ติดตามประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะฝนตกหนัก น้ำหลาก และคลื่นลมแรงที่อาจทวีความรุนแรงในระยะต่อไป