วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ไทย-กัมพูชาล่าสุด ตอนหนึ่งถึงการเจรจาหารือร่วมกันผ่าน คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ว่า ในการประชุม GBC วันที่ 4 สิงหาคม นี้ ฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประชุม เหลือแค่รอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญเข้าประชุมตามที่ได้ตกลงกันไว้
“ฝ่ายไทยพร้อมในเรื่องของรายละเอียดและเนื้อหาที่จะเข้าไปร่วมเจรจา โดยที่มีการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ในระดับของแม่ทัพภาคได้ข้อตกลงในภาพรวมเรื่องแนวทางการหารือ รวมทั้งแนวทางในการปฏิบัติร่วมกันระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่าย หวังว่าภาพนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่สันติภาพในภูมิภาคและระหว่างทั้งสองประเทศ” พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุ
พร้อมกันนี้ ศบ.ทก. ยังหารือถึงการห้ามบินโดรน ในพื้นที่ที่อาจจะกระทบความมั่นคงของประเทศไทย ล่าสุด สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้ออกประกาศว่าห้ามีให้ผู้ใดทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ โดรนในพื้นที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือในช่วงสถานการณ์ตึงเครียด
ครอบคลุมตั้งแต่จ.ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี นครราชสีมา นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท พิจิตร และลพบุรี
รวมทั้งยังห้ามบินโดรนทุกประเภทในรัศมี 9 กิโลเมตร หรือ 5 ไมค์ทะเล จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวทุกแห่งโดยเด็ดขาด ผู้ใดที่ฝ่าฝืนมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในเรื่องความอดทน อดกลั้น และเชื่อมั่นต่อการดำเนินการด้านสันติภาพและการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม แต่ที่ผ่านมาทหารไทยถูกละเมิดอธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่ไทยได้แสดงมาตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตาม ศบ.ทก. ขอชื่นชมไปยังผู้กล้าและขอสดุดีวีรชนทั้งหลายที่อยู่ในแนวหน้าตั้งแต่วันแรกของการปะทะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกเหนือจากทหารแล้ว ยังมีทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่มีส่วนร่วมเป็นผู้ที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบความสำเร็จ
รวมถึงมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และจิตอาสาต่าง ๆ ที่ช่วยดูแลกองทัพและประชาชนด้วยความไม่เหน็ดเหนื่อย
นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนที่ส่งกำลังใจและส่งสิ่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้ทางทหาร และหน่วยงานเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแนวหน้าอย่างต่อเนื่องด้วย ศบ.ทก.จึงขอขอบคุณถึงน้ำใจต่าง ๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง