อว.ประสานมหาวิทยาลัย ร่วมเยียวยา-ช่วยชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. 2568 | 11:31 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2568 | 11:34 น.

กระทรวงอว. สั่งการ บพท. ประสานมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ ระดมชุดความรู้ตั้งศูนย์พักพิง เงินบริจาค สิ่งของจำเป็น ครัวกลาง อาหารปรุงสำเร็จ ช่วยผู้ประสบภัยจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษาฯ ได้สั่งการขับเคลื่อนกลไก อว.ส่วนหน้า เพื่อประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่กำลังประสบภัยจากการสู้รบ และภัยจากอุทกภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความรวดเร็ว

โดยระดมการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งทำโครงการวิจัยร่วมกับ บพท. เพื่อรวบรวมส่งมอบไปบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบภัยทั้งภัยจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และภัยจากอุทกภัยที่จังหวัดน่าน

"การระดมความสนับสนุนจะดำเนินการทั้งในรูปเงินบริจาคเข้าบัญชีมหาวิทยาลัย หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยตรง หรือในรูปสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และใช้ชุดความรู้จากงานวิจัย ซึ่งเป็นองค์ความรู้จากงานวิจัยในการบริหารจัดการภัยพิบัติ อย่างเป็นระบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบภัย" ดร.กิตติ ระบุ

ผู้อำนวยการ บพท.กล่าวว่า ชุดความรู้จากงานวิจัย บ่งชี้ว่าการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบภัย นอกเหนือจากการจัดหาสิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพแก่ผู้ประสบภัยแล้ว ยังควรต้องมีการตั้งครัวกลาง ในศูนย์พักพิงชั่วคราว บริเวณมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อจัดทำอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานให้แก่ประชาชน

รวมทั้งอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะนำพาความช่วยเหลือไปส่งมอบแก่ประชาชนผู้ประสบภัย โดยครัวกลางดังกล่าวจะอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มหารวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาน่าน

"การดำเนินการดังกล่าวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่ อีกทั้งรมว.อว.มีการติดตามผลการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ชาวบ้านอย่างใกล้ชิดด้วย"

ก่อนหน้านี้ รมว.การอุดมศึกษาฯ ได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้ทุกมหาวิทยาลัยในสังกัดที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ใกล้เคียงชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยการปะทะชายแดน (อว.เพื่อประชาชน) เพื่อเป็นหนึ่งในหน่วยงานให้ความช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะกันของทหารไทยและกำลังพลกัมพูชา

โดยขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยทุกแห่งในพื้นที่ ให้ผนึกกำลังจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นโดยทันที เพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราวและบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยใช้ศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษาในการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ในยามวิกฤตนี้ ล่าสุดมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาขอพักพิงแล้วกว่า 5,000 ชีวิต ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา

ขณะเดียวกัน ยังได้ขอความร่วมมือบุคลากรกระทรวง อว. ที่อยู่ในหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยร่วมบริจาคโลหิตเพื่อสำรองให้หน่วยทหารและผู้ป่วยที่ต้องการเลือดเร่งด่วน โดยสามารถเดินทางไปบริจาคได้ที่โรงเรียนแพทย์ในสังกัดกระทรวง อว. หรือสถานพยาบาลอื่น ๆ

โดยทางมหาวิทยาลัยได้ระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรและนักศึกษาจิตอาสา จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นพื้นฐานอย่างเร่งด่วน ทั้งอาหารปรุงสุก น้ำดื่ม ยารักษาโรค ชุดปฐมพยาบาล และเครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อมอบให้กับผู้อพยพทุกคนอย่างทั่วถึง