นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ่านแถลงการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีรายละเอียดดังนี้
พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยของเรากำลังถูกคุกคามจากประเทศกัมพูชา แม้ที่ผ่านมาเราจะอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ และเลือกที่จะใช้สันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักมนุษยธรรมแล้ว แต่เป็นที่น่าผิดหวังมากที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะใช้กำลังทางทหารก่อน แล้วยังเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างรุนแรง
แถลงการณ์ระบุว่า กัมพูชาได้โจมตีโรงพยาบาลและพื้นที่ชุมชนที่ประชาชนอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ในเขตชายแดนมากกว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือน 13 ราย รวมไปถึงเด็ก สตรี และคนชรา รวมทั้งทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเสียหายอย่างใหญ่หลวง ถือเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง
เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับเลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐบาลได้มีหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ประณามการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้
รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียของพี่น้องประชาชนทุกท่าน และขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาล กองทัพ และหน่วยราชการทุกหน่วยไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย นับแต่เสียงจากกระบอกปืนนัดแรกดังขึ้น กองทัพไทยได้มีการตอบโต้โดยจำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายทางการทหารของกัมพูชาบนหลักการปกป้องตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยได้ทำลายฐานที่มั่นทางการทหารของกัมพูชา
ขณะนี้ได้มีการจัดการอพยพผู้คนที่ได้รับผลกระทบออกจากพื้นที่นับแสนคน และรัฐบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือนรายละหนึ่งล้านบาท ทุพพลภาพ 700,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 200,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บมาก 100,000 บาท และได้ประสานสายการบินทุกสายในการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับคนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย รวมถึงการดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
ในวันพรุ่งนี้ รัฐมนตรีจะลงพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อไปสร้างความเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะมีความปลอดภัย และช่วยดูแลเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องในพื้นที่
สถานการณ์ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อส่งกำลังใจให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนในการปกป้องอธิปไตยและประชาชนในพื้นที่ให้มีความปลอดภัย
"เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความขัดแย้งในระดับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการปะทะกันตามแนวชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตยและตอบโต้ผู้รุกราน"
ท้ายที่สุดนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงห่วงใยกำลังพลและราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงรับผู้บาดเจ็บทุกคนเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้(26 ก.ค.68) เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่านายทักษิณก็มีกำหนดการจะลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเบื้องต้นเวลา 09.00 น. ทักษิณจะเดินทางไปยังโรงครัวที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเดชอุดม ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สส. พรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมจัดทำข้าวกล่องกระจายไปยังศูนย์พักพิงประชาชน 4-5 จุด ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี