ปภ.รับมือพายุวิภา แจ้งเตือน Cell Broadcast 17 จว.89 อำเภอเสี่ยงดินถล่ม

22 ก.ค. 2568 | 06:38 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ค. 2568 | 06:47 น.

ปภ.กางแผนรับมือพายุวิภา ตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง แจ้งเตือน Cell Broadcast 17 จังหวัด 89 อำเภอเสี่ยงดินถล่ม ย้ำ หากสถานการณ์รุนแรงพร้อมอพยพ

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามพายุโซนร้อนวิภา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค.68) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้ และอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งอิทธิพลของพายุวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง ช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 

 

จากรายงานทราบว่าบางพื้นที่เริ่มมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ประกอบกับข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าวันนี้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนบางจังหวัดอาจจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จึงได้กำชับให้ห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

ปภ.กางแผนรับมือพายุวิภา ตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง แจ้งเตือน  Cell Broadcast 17 จังหวัด 89 อำเภอเสี่ยงดินถล่ม

 

"วันนี้ ปภ. และทุกจังหวัดได้เตรียมพร้อมเชิงรุกและแผนเผชิญเหตุจังหวัดอย่างเต็มกำลัง โดย ปภ. ได้เตรียมการขั้นสูงสุดมาตั้งแต่ช่วงต้น ได้เปิดห้องปฏิบัติการวอร์รูม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.68) และได้ตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ร่วมกับจังหวัดภาคเหนือ ขณะที่จังหวัดต่างๆ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ร่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์พายุและประเมินความเสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง"

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

รวมถึงมีการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast และหอเตือนภัยในพื้นที่ทันทีที่ประเมินวิเคราะห์พบสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที และมีการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วมหรือศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ที่ถูกต้องและการเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพรองรับกรณีสถานการณ์รุนแรง 

 

นอกจากนี้ ได้มีการเตรียมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย โดยขณะนี้เครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ.จากศูนย์ ปภ.เขต ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท เช่น รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือพร้อมเครื่องยนต์ เรือท้องแบน ได้เข้าประจำพื้นที่จุดเสี่ยงจุดเปราะบางเรียบร้อยแล้วและพร้อมเดินเครื่องทำงาน โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ซึ่งสามารถส่งกำลังสนับสนุนการเผชิญเหตุและช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยภาคเหนือได้ทันที

เตรียมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย


 

ขณะเดียวกันได้นำเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ขึ้นมาประจำที่ฐานจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก 

เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32

 

สำหรับการดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้จัดเตรียมถุงยังชีพไว้ในพื้นที่พร้อมแล้ว หากไม่เพียงพอ ปภ.พร้อมสนับสนุนจังหวัดได้ทันที 


ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการเแจ้งเตือนล่วงหน้าแก่ประชาชน หรือ Early Warning ให้ทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ตื่นตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดต้องเตรียมรับการประสานงานจากส่วนกลางทันที ย้ำว่าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก


นายภาสกร กล่าวต่อว่า นอกจากการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมแล้ว ยังต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากหลายพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับดินมีความชุ่มน้ำมาก อาจมีความเสี่ยงเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะที่ราบลุ่มเชิงเขา ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน

 

โดยห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ.ได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.68) ได้แจ้งเตือนดินถล่มผ่านระบบ Cell Broadcast  รูปแบบ Information Alert ไปยังจังหวัดที่มีความเสี่ยงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 9 ครั้ง ในพื้นที่ 17 จังหวัด 89 อำเภอ ได้แก่

  1. กาญจนบุรี
  2. น่าน
  3. ตาก
  4. แพร่
  5. แม่ฮ่องสอน
  6. พะเยา
  7. เชียงราย
  8. เลย
  9. หนองคาย
  10. อุดรธานี
  11. หนองบัวลำภู
  12. ชัยภูมิ
  13. เชียงใหม่
  14. จันทบุรี
  15. ตราด
  16. ระนอง
  17. พังงา 

 

ทั้งนี้เพื่อแจ้งข้อมูลความเสี่ยงภัยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและเตรียมพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้า รวมถึง ปภ.ได้กำชับจังหวัดเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม ให้เตรียมความพร้อมในส่วนของศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือจุดอพยพที่ปลอดภัย และพิจารณาอพยพกลุ่มเปราะบางที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มมายังจุดปลอดภัยไว้ล่วงหน้าทันที เพื่อความปลอดภัยกรณีเกิดสถานการณ์รุนแรง


"ทุกภาคส่วนมีความพร้อมรับมือสถานการณ์และดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ติดตามพยากรณ์อากาศ ข้อมูลข่าวสาร และการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด 


หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง 

ปภ.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมแผนรับมือพายุวิภา