"พายุวิภา"กระทบไทยจังหวัดใด เช็กประกาศกรมอุตุ ฉบับ 7 พื้นที่ฝนตกหนัก

21 ก.ค. 2568 | 07:14 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2568 | 14:34 น.

พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามวันพรุ่งนี้ กรมอุตุฯออกประกาศเตือนทั่วไทย รับมือฝนตกหนัก เช็กพื้นที่เสี่ยงที่นี่

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 11.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ "วิภา" และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย 

 

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (21 ก.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง "วิภา" ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. มีศูนย์กลางอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ยในวันนี้ (21 ก.ค. 68) 

 

คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองท้ายบิ่ญ ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 68) และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้นพายุนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนต่อไป ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

 

จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง  ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม 

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568

  • ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร
  • ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 

  • ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตากกำแพงเพชร พิจิตร     พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา
  • ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี 
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา

วันที่ 23-24 กรกฎาคม 2568 

  • ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก    พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง:    จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา 
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา 


 

สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

 

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุดุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.