อัพเดทผลกระทบ 'พายุวิภา' ล่าสุดวันนี้ 21ก.ค.68 'ฝนตกหนัก' 25 จังหวัด

ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดสถานการณ์พายุวิภา (WIPHA) และฝนตกหนักล่าสุดวันนี้ (21ก.ค.68) โดยอ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการ จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ (Thaiwater.net) จัดทำโดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ที่รวบรวมข้อมูลมาจาก 54 หน่วยงาน 12 กระทรวง ระบุว่า 

 

 

สรุปสถานการณ์เฝ้าระวัง (21 ก.ค. 68)

เฝ้าระวัง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ

1. จังหวัดตาก
2. แม่ฮ่องสอน
3. เชียงราย
4. เชียงใหม่
5. ลำพูน
6. ลำปาง
7. น่าน
8. พะเยา
9. แพร่
10. อุตรดิตถ์
11. พิษณุโลก
12. เพชรบูรณ์
13. กาญจนบุรี
14. สุโขทัย
15. อุดรธานี
16. เลย
17. หนองคาย
18. บึงกาฬ
19. สกลนคร
20. นครพนม
21. จันทบุรี
22. ตราด
23. ระนอง
24. พังงา
25. ภูเก็ต 

 

ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ เขตเมืองจากฝนตกสะสมในพื้นที่ ในช่วงวันที่ 22 - 24 ก.ค. 68 

เฝ้าระวัง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร

 

เฝ้าติดตาม การเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” ปกคลุมบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยพายุนี้กำลัง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. 68 ขอให้เฝ้าติดตามการคาดการณ์อย่างใกล้ชิด

 

 

สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน (21 ก.ค. 68)

พายุโซนร้อน “วิภา” ปกคลุมบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ

 

 

กลุ่มเมฆ พบกลุ่มเมฆปกคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ประเทศไทยมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายตัวทั่วทุกภูมิภาค โดยมีฝนตกหนักบริเวณ

• จังหวัดพะเยา 89 มิลลิเมตร
• ระนอง 87 มิลลิเมตร
• ลพบุรี 82 มิลลิเมตร ก
• ระบี่ 74 มิลลิเมตร
• เชียงราย 71 มิลลิเมตร
• ชุมพร 65 มิลลิเมตร
• สงขลา 63 มิลลิเมตร
• สตูล 51 มิลลิเมตร
• น่าน 49 มิลลิเมตร
• นครราชสีมา 48 มิลลิเมตร
• พังงา 46 มิลลิเมตร
• สุราษฎร์ธานี 45 มิลลิเมตร
• ตราด 43 มิลลิเมตร
• ลำปาง 40 มิลลิเมตร
• นครนายก 40 มิลลิเมตร
• เชียงใหม่ 39 มิลลิเมตร
• ประจวบคีรีขันธ์ 38 มิลลิเมตร
• ภูเก็ต 38 มิลลิเมตร
• นครศรีธรรมราช 38 มิลลิเมตร
• พิษณุโลก 37 มิลลิเมตร
• ยะลา 36 มิลลิเมตร
• แพร่ 35 มิลลิเมตร
• เพชรบูรณ์ 35 มิลลิเมตร

 

 

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ

อ่างเก็บนำขนาดใหญ่ทั่วประเทศมีปริมาณน้ำกักเก็บ 42,259 ล้านลูกบาศก์เมตร คิด เป็น 60% ของความจุ โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การ 18,720 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

 

ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกมีระดับน้ำน้อยถึงระดับน้ำปานกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาค กลาง และภาคใต้มีระดับน้ำปานกลางถึงน้ำมาก และมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำอิง จังหวัดพะเยา ห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ลำน้ำอูน จังหวัดสกลนคร และลำน้ำก่ำ จังหวัดนครพนม

 

คาดการณ์ฝน คาดการณ์คลื่น

ช่วงวันที่ 21 - 23 ก.ค. 68 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น

 

ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกต่อเนื่องและอาจมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ช่วงวันที่ 24 - 27 ก.ค. 68 ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง

 

ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนต่อเนื่องและอาจ มีฝนตกหนักได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก

 

ทั้งนี้ขอให้เฝ้าติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” ปกคลุมบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. 68 ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก

 

 ช่วงวันที่ 21 - 23 ก.ค. 68 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณทะเลอันดามัน ตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร

 

ที่มาข้อมูล - คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ