วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งว่า ตามที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) ได้รับข้อมูลผ่านทางสื่อออนไลน์เฟสบุ๊ค เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. ว่าพบทากทะเลสีน้ำเงิน หรือ มังกรทะเลสีน้ำเงิน (Blue Dragon) ถูกคลื่นซัดเข้าบริเวณหาดกะรน จังหวัดภูเก็ต คลื่นลมแรง (คลื่นสูงประมาณ 1-2 ม.)
เบื้องต้นลงพื้นที่ตรวจสอบ วันที่ 10-11 ก.ค. 68 พบว่าเป็นทากทะเลสีน้ำเงินที่มีพิษชนิด Glaucus sp. ขนาดประมาณ 0.5 ซม. โดยพิษมาจากการเก็บสะสมเข็มพิษจากเหยื่อที่กินเข้าไป ไม่สามารถผลิตเข็มพิษได้ด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ยังพบ แมงกะพรุนกะลาสี (Velella velella) และแมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์ (Porpita porpita) ซึ่งเป็นอาหารของทากทะเลสีน้ำเงินร่วมด้วย
ฉะนั้นหากสัมผัสทากทะเลสีน้ำเงิน จะรู้สึกเจ็บปวด จึงไม่แนะนำให้จับเล่น หากสัมผัสแนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูเช่นเดียวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับสัมผัสแมงกะพรุนพิษ
นอกจากนี้ขอให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ระมัดระวังการพบเจอ แมงกะพรุนหัวขวด (Bluebottle Jellyfish) ชนิด Physalia sp. หนึ่งในอาหารของทากทะเลสีน้ำเงินที่มีพิษ โดยสถิติมักพบแมงกะพรุนกลุ่มนี้หลังจากการพบเจอทากทะเลสีน้ำเงิน
ข้อมูลจากส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ระบุว่า Blue Dragon หรือจะเรียกว่า มังกรทะเลสีน้ำเงิน หรือ ทากทะเลสีน้ำเงิน (blue sea slug หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Glaucus atlanticus) เป็นทากเปลือย จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อาศัยอยู่ในทะเลบริเวณกลางน้ำ กินแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงเป็นอาหาร และจะนำเข็มพิษของแมงกะพรุนมาไว้ในตัวเพื่อป้องกันตัวเอง
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก " ฉุกเฉินการแพทย์"ระบุว่า Blue Dragon พบได้ตามมหาสมุทรและชายฝั่งน้ำอุ่นแถบประเทศออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และยุโรป มีรูปร่างคล้ายมังกรหกปีกพร้อมลายสีน้ำเงินสดสะดุดตา โดยลำตัวจะโตยาวสุดแค่ 1-1.5 นิ้วเท่านั้น มีนิสัยดุร้ายพร้อมโจมตีเหยื่อและผู้บุกรุกด้วยพิษสุดร้ายแรงที่จะเข้าไปทำลายระบบประสาทการทำงานของหัวใจและเซลล์ผิวหนัง
ที่มาข้อมูล-ภาพ