ตลาดรถบรรทุก หัวลากโตอืด ฮีโน่ ขยายดีลเลอร์หวังแชร์ 45%
ตลาดรถบรรทุกปี 59 คาดทำยอดขายรวม 2.7 -2.75 หมื่นคัน ขณะที่ 5 เดือนแรกของปีเติบโตเพียง 3% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้านฮีโน่ ระบุผลประกอบการ 5 เดือนโตเหนือตลาดด้วยอัตรา 12% เตรียมเดินหน้าขยายดีลเลอร์ -ชูกลยุทธ์โททัล ซัพพอร์ต มั่นใจสิ้นปีครองส่วนแบ่งการตลาด 45%
นายอำนวย พงษ์วิจารณ์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ฮีโน่ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถหัวลาก -รถบรรทุกในไทยตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2559 เติบโตประมาณ 3% หรือคิดเป็นจำนวน10,800 คัน โดยเซ็กเมนต์ที่เติบโตสูงสุดกว่า 40% คือกลุ่มรถเล็ก 4 ล้อใหญ่และกลุ่ม 6 ล้อเล็กที่ได้ประโยชน์จากพ.ร.บ.ของกรมการขนส่งทางบก ที่มีการแก้ไข จากเดิมน้ำหนัก 1.6 ตัน ก็เพิ่มเป็น 2.2 ตัน สามารถจดทะเบียนได้ และวิ่งในกรุงเทพฯได้ไม่ติดเงื่อนไขเวลา
ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่หดตัวลงเล็กน้อย เพราะภาพรวมธุรกิจยังไม่ดี เกษตรกรรมยังไม่ฟื้น รวมไปถึงปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ตามในกลุ่มรถบรรทุก 10 ล้อ 2 เพลา ที่ใช้บรรทุกหิน,ดิน,ทราย เติบโต 3% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากโครงการภาครัฐที่มีการเดินหน้า ทำให้มีความต้องการใช้รถเพื่อขนส่งและใช้ในงานก่อสร้าง ด้านกลุ่มรถหัวลาก-คอนเทนเนอร์ ตามปกติรถในกลุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับการนำเข้า –ส่งออก ซึ่งจากทิศทางที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ยังไม่ดี ทำให้เซ็กเมนต์นี้ลดลง 3% ส่วนรถโดยสาร-รถบัส ในช่วงต้นปียังไม่มีโครงการจากภาครัฐเข้ามา ทำให้โดยรวมตัวเลขลดลงพอสมควร
"ตัวเลขยอดขาย 5 เดือนที่ผ่านมาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยเซ็กเมนต์ที่เติบโตคือกลุ่มรถขนาดเล็กที่ได้อานิสงส์จากพ.ร.บ.ขนส่งอันใหม่ ทำให้ยอดขายเติบโต ขณะที่กลุ่มอื่นๆนั้นหดตัวลง โดยรวมๆประเมินว่าตลาดยังไม่ฟื้นตัวเท่าไรนัก "
นายอำนวย กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มครึ่งปีหลังอาจจะเติบโตเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยรถที่ใช้ในการก่อสร้างต่างๆอาจจะฟื้นตัว หรือรถโดยสารที่จะได้อานิสงส์จากธุรกิจท่องเที่ยวอาจจะเติบโตขึ้นมาบ้าง โดยประเมินว่ายอดขายรวมๆในปีนี้จะอยู่ที่ 2.7 -2.75 หมื่นคัน แบ่งออกเป็นยอดขายจากแบรนด์ญี่ปุ่นประมาณ 95 -96 % และอื่นๆ 5 -6 %
สำหรับฮีโน่ มีผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 12% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 45% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 43% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 45% จนถึงสิ้นปี
นายอำนวย กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ทางการตลาดในครึ่งปีหลัง ยังคงเน้น โททัล ซัพพอร์ต กล่าวคือ ดูแลสนับสนุนทุกความต้องการของลูกค้า เริ่มตั้งแต่การช่วยเหลือด้านสินเชื่อ ผ่านสถาบันการเงิน ,การนำเสนอโปรดักต์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด,มีการสอนช่างของลูกค้าเกี่ยวกับการดูแลรักษารถ หรือหากลูกค้าจะซื้อสัญญาซ่อมกับบริษัทก็จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นแล้ว มีแผนจะขยายเครือข่ายดีลเลอร์ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ และกำลังเตรียมจะเปิดเพิ่มที่ สระแก้ว,ปราจีนบุรี และหาดใหญ่ สงขลา
"กลยุทธ์การตลาดของเราจะไม่เน้นแคมเปญแรงๆไม่เน้นการลดราคา แต่เราจะดูว่าลูกค้าต้องการอะไร และจะเข้าหากลุ่มลูกค้าโดยตรง ขณะเดียวกันเราจะพัฒนาและขยายเครือข่ายต่อเนื่อง เพราะธุรกิจการขายรถบรรทุกสิ่งที่สำคัญคือศูนย์บริการ และการบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยรถของลูกค้าจะต้องวิ่งได้ ใช้งานได้ ดังนั้นเราจึงมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจ"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559