รู้หรือไม่ สมาร์ทโฟนครองตลาด! 81% ของคนเอเชียใช้ดูวิดีโอคนเดียว

16 มิ.ย. 2568 | 22:04 น.

งานสัมมนา "OMG FORWARD 2025" เผย 81% คนเอเชียใช้สมาร์ทโฟนสูงสุดดูคนเดียวและดูร่วมกับผู้อื่น ขณะที่ทีวี-คอมพิวเตอร์ได้รับความนิยม

รายงานล่าสุดจากงานสัมมนา "OMG FORWARD 2025" เกี่ยวกับการรับชมวิดีโอออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เผยให้เห็นพฤติกรรมที่น่าสนใจว่า “ไม่มีอะไรที่เหมาะกับทุกคน” เมื่อพูดถึงการดูวิดีโอออนไลน์ โดยผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ใช้อุปกรณ์หลากหลายชนิดในการรับชม และอารมณ์ของผู้ดูก็มีส่วนสำคัญในการเลือกแพลตฟอร์มและเนื้อหา

อุปกรณ์หลากหลาย ครองตลาดการดูออนไลน์

โดยเฉลี่ยแล้วคนเอเชียแปซิฟิก 1 คน ใช้อุปกรณ์ประมาณ 3.8 เครื่อง ในการรับชมวิดีโอออนไลน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการเข้าถึงเนื้อหา

เมื่อเจาะลึกลงไปในสถิติการใช้อุปกรณ์พบว่าสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการดูวิดีโอออนไลน์ ไม่ว่าจะดูคนเดียวหรือดูพร้อมกับคนอื่น โดย 81% ของผู้ชมใช้สมาร์ทโฟนเมื่อดูคนเดียว และ 55% เมื่อดูร่วมกับผู้อื่น นี่แสดงให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนคือตัวเลือกหลักสำหรับการดูวิดีโอในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขณะเดินทาง หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำที่จอใหญ่ไม่จำเป็น

 

สมาร์ททีวี หรือ ทีวี ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดย 55% ของผู้ชมใช้เมื่อดูพร้อมกับคนอื่น และ 41% เมื่อดูคนเดียว ถึงแม้จะมีเพียงครึ่งเดียวของคนเอเชียแปซิฟิกที่เป็นเจ้าของ แต่คนที่ใช้ก็มักจะใช้ทีวีเป็นหลักในการดูวิดีโอออนไลน์

ส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และ แล็ปท็อป ถูกใช้โดย 53% ของผู้ชมเมื่อดูคนเดียว และ 49% เมื่อดูพร้อมกับคนอื่น ด้าน เครื่องเล่นเกม มีสัดส่วนการใช้งานน้อยที่สุด โดยมีเพียง 21% ของผู้ชมที่ใช้เมื่อดูคนเดียว และ 21% เมื่อดูพร้อมกับคนอื่น

รู้หรือไม่ สมาร์ทโฟนครองตลาด! 81% ของคนเอเชียใช้ดูวิดีโอคนเดียว

น่าสังเกตว่าเมื่อมีการดูวิดีโอร่วมกัน ผู้ชมดูเหมือนจะไม่ได้มีอุปกรณ์ที่ชอบเป็นพิเศษ โดยในบางตลาด เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และเวียดนาม มีแนวโน้มชอบใช้สมาร์ททีวี หรือแพลตฟอร์มการดูวิดีโอแบบสดของท้องถิ่น (เช่น TVing) มากกว่า นี่อาจบ่งชี้ว่าการรวมช่องสัญญาณแบบเส้นตรงเข้ากับการดูวิดีโอตามต้องการได้เปลี่ยนการรับชมให้เป็นการรวมตัวกันในพื้นที่ที่กำหนดไว้

 

อารมณ์มีผลต่อการเลือกดูวิดีโอออนไลน์

รายงานยังชี้ให้เห็นว่าอารมณ์ของผู้ดูก็มีผลอย่างมากต่อพฤติกรรมการรับชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ที่เกิดขึ้น “ก่อน” “ระหว่าง” และ “หลัง” การดูวิดีโอ

-ผู้ชมที่รู้สึกเบื่อ เป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเมื่อดูวิดีโอเพื่อฆ่าเวลาหรือผ่อนคลาย โดยมีสัดส่วนถึง 59% ก่อนดู และ 40% ระหว่างดู แต่หลังจากดูแล้ว ความเบื่อจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือเพียง 10%

-ผู้ชมที่รู้สึกผ่อนคลาย มีสัดส่วนสูงทั้งก่อน (40%) ระหว่าง (67%) และหลังดู (60%)

-ผู้ชมที่รู้สึกมีความสุข ก็มีสัดส่วนสูงเช่นกัน โดยมีถึง 64% ก่อนดู และ 67% ระหว่างดู และ 60% หลังดู

-ผู้ชมที่รู้สึกมีแรงบันดาลใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังดูวิดีโอ โดยจาก 25% ก่อนดู เพิ่มเป็น 36% ระหว่างดู และ 47% หลังดู

-ผู้ชมที่รู้สึกตื่นเต้น จะมีสัดส่วนสูงถึง 50% ก่อนดู และลดลงเหลือ 37% ระหว่างดู และ 28% หลังดู

-ในทางตรงกันข้าม ผู้ชมที่รู้สึกเศร้า, หงุดหงิด และโกรธ มีสัดส่วนค่อนข้างน้อยในทุกช่วงเวลา

สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ชมที่ดูวิดีโอคนเดียวหรือนอกบ้าน มักจะรู้สึกเบื่อมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชมคนอื่นๆ ที่ดูวิดีโอออนไลน์ ซึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้มีเหตุผลเฉพาะเจาะจงในการดูวิดีโอเหมือนกลุ่มหลังที่อาจมีการวางแผนล่วงหน้า

นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงวัยรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มวิดีโอที่ผู้ใช้สร้างเนื้อหา (UGC video platforms) เพื่อเสริมหลักสูตรการเรียนรู้ในโรงเรียน และเพื่อสำรวจความสนใจของตนเอง

ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างเล็กน้อยในการรับชมวิดีโอออนไลน์นั้นเกินกว่าลักษณะทางประชากรศาสตร์ การทำความเข้าใจภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ