รู้จัก"ช่องบก"พื้นที่ประวัติศาสตร์ปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา

จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งการปะทะกันเริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น.และจบสิ้นในเวลา 05.55 น.โดยในส่วนของฝั่งไทย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชา ข้อมูลจากเฟสบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia หรือ สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย 

 

สำหรับปมปัญหา ความขัดแย้ง การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณชายแดนช่องบกเมื่อวานที่ผ่านมา มิใช่ครั้งแรก โดยในช่วงที่ผ่านมาเคยมีการปะทะกันเป็นระยะๆ ซึ่งปัญหาเกิดจากต่างฝ่ายต่างยึดถือแผนที่ของตนเอง ทางฝั่งกองทัพภาค 2 ได้ระบุว่าพื้นที่ที่มีปัญหากันนี้ ถือเป็นพื้นที่ปักปันยังไม่แล้วเสร็จ และในช่วงบ่ายของวันนี้ ไทยจะมีการพูดคุยเจรจากับกัมพูชาเพื่อกำหนดแนวทาง ข้อตกลงต่างๆเพื่อลดความขัดแย้ง

 

แม้จะยังไม่รู้ว่าข้อสรุปของการพูดคุยเจรจากันในวันนี้จะเป็นอย่างไร แต่ชื่อของ"ช่องบก"ได้รับความสนใจจากประชาชนคนไทยไม่น้อย ซึ่ง"ช่องบก"ในวันนี้ไม่ใช่แค่เพียงสถานที่ท่องเที่ยวของ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หากแต่ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
 

รู้จัก "ช่องบก" มิใช่แค่พื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ แต่อดีตยังเป็นสมรภูมิรบไทย -เวียดนาม

รู้จัก"ช่องบก" สามเหลี่ยมมรกตเชื่อม 3 ประเทศ  
พื้นที่รอยต่อชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว โดยชายแดนที่เชื่อม 3 ประเทศนี้ ได้รับการขนานนามว่า "สามเหลี่ยมมรกต"

• ในไทย ช่องบก ตั้งอยู่ในพื้นที่ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี 
• ในลาว ช่องบก ตั้งอยู่ในพื้นที่ เมืองมูลประโมกข์ แขวงจำปาศักดิ์ 
• ในกัมพูชา ช่องบก ตั้งอยู่ในพื้นที่ เมืองจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร
• พื้นที่รวมของ"ช่องบก"มีขนาดประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร

 

สมรภูมิช่องบกปี 2528 -2530

ปี 2528

• เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารเวียดนาม ซึ่งในขณะนั้นทหารเวียดนามเข้ามายึดครองกัมพูชา และเข้ามารุกรานยังพื้นที่ช่องบก ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา

ปี 2529 

• กองกำลังสุรนารี ใช้กำลังเข้าผลักดันและขับไล่กองกำลังต่างชาติของเวียดนาม แต่การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก 

ปี 2530

• กองทัพทหารไทย รวมพลังขับไล่ทหารเวียดนามออกจากพื้นที่ช่องบกและพื้นที่พิพาททั้งหมดได้สำเร็จ  โดยในเหตุการณ์สมรภูมิช่องบก ไทยสูญเสียทหาร 109 นาย บาดเจ็บ 664 นาย

 

อัปเดตผลการเจรจาไทย-กัมพูชา พร้อมใช้กลไกJBC ในระดับรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดน

อัปเดตล่าสุดเมื่อเวลา 18.32 น.ทีมโฆษกกองทัพบก ได้เผยผลการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา โดยสามารถบรรลุข้อตกลงในการถอนกำลังออกจากพื้นที่ขัดแย้ง พร้อมใช้กลไก JBC ในระดับรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดน

 

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันนี้ (29 พ.ค.68) เวลา 15.30 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะหารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน  ซึ่งในวันนี้เป็นการพบปะเจรจาต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชาได้พูดคุยผ่านทางระบบ VTC เมื่อวานนี้ (28 พ.ค. 68)

โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธี ในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตย หรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

 

ส่วนกรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว ถือเป็นการคลี่คลายความตรึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Regional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายได้ระบุว่าจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด โดยผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ย้ำว่า ในส่วนของกัมพูชา หากมีผู้ใดฝ่าฝืนข้อตกลงที่ได้ร่วมกันวางไว้ในวันนี้ จะดำเนินการย้ายกำลังออกจากพื้นที่ทันที และยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาสามารถควบคุมและสั่งการหน่วยงานทุกหน่วยได้อย่างเด็ดขาด

 

การพบปะเจรจาระหว่างผู้บัญชาการทหารบกไทยและกัมพูชาในครั้งนี้ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี สามารถบรรลุข้อตกลงในการถอนกำลังออกจากพื้นที่ขัดแย้ง และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC ในระหว่างนี้ ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด โดยกองทัพบกจะยังคงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนต่อไป