ทบ.ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย

จากสถานการณ์ฝนตกหนักทางฝั่งประเทศเมียนมา ส่งผลให้ ในวันนี้  (24 พฤษภาคม 2568) เกิดน้ำป่าไหลหลากและระดับน้ำในลำน้ำสายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะบริเวณบ้านหัวฝาย บ้านเกาะทราย และบ้านไม้ลุงขน ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร

จากสถานการณ์ดังกล่าว พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก ได้ติดตามสถานการณ์พิบัติภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ตลอดจนผลกระทบ ความเสียหาย และความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

พร้อมสั่งการให้ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37, กรมการทหารช่าง และหน่วยทหารในพื้นที่ ระดมกำลังพลและทรัพยากรลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเน้นย้ำการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายสำคัญในการสนับสนุนทุกส่วนราชการเข้าช่วยเหลือประชาชนในทันทีที่เกิดเหตุการณ์

ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 37 ได้จัดกำลังชุดเผชิญเหตุช่วยเหลือประชาชน จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ พร้อมชุดแพทย์เดินเท้า ลงพื้นที่เร่งอพยพประชาชน เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขนย้ายรถยนต์และสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ กรมการทหารช่างได้ประสานการปฏิบัติงานกับนายอำเภอแม่สาย และเทศบาลตำบลแม่สาย ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย–เมียนมา แห่งที่ 1 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เร่งเปิดทางสิ่งกีดขวางการระบายน้ำที่ติดค้างอยู่บริเวณตอม่อสะพาน พร้อมใช้รถแบ็กโฮลำเลียงกระสอบทรายบิ๊กแบ็กเสริมแนวพนังกั้นน้ำ ป้องกันการไหลทะลักเข้าสู่เขตเมืองชั้นใน เนื่องจากมวลน้ำจากฝั่งเมียนมายังคงไหลเข้าสู่แม่น้ำสายอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน กองกำลังผาเมืองได้จัดกำลัง 5 ชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย พร้อมยานพาหนะและอุปกรณ์ช่วยเหลือ ลงพื้นที่ร่วมปฏิบัติภารกิจกับหน่วยงานในท้องถิ่น ทั้งการช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของ อพยพผู้ประสบภัยจากพื้นที่น้ำท่วม และฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด รวมถึงการบรรจุทรายใส่บิ๊กแบ็ก เพื่อสร้างแนวป้องกันน้ำบริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 และสวนสาธารณะบ้านไม้ลุงขน

สถานการณ์ล่าสุด ขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว และระดับน้ำเริ่มลดลง แต่หน่วยทหารยังคงเฝ้าระวังมวลน้ำส่วนที่สองอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย