“นพพล ชูกลิ่น”เสนอโมเดล โอกาสครั้งที่ 2 คืนคนดีสู่สังคม บนเวที UN

21 พ.ค. 2568 | 12:39 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2568 | 12:50 น.

นักธุรกิจไทย “นพพล ชูกลิ่น” ขึ้นเวทีประชุม UNODC–CCPCJ ที่กรุงเวียนนา เสนอแนวคิด “โอกาสครั้งที่ 2 ของชีวิต” คืนคนดีสู่สังคม ผ่านนวัตกรรมการจ้างงานผู้ต้องขัง ลดทำผิดซ้ำ

สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ร่วมกับคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (CCPCJ) จัดการประชุม CCPCJ สมัยที่ 34 ระหว่างวันที่ 19–23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย

ในครั้งนี้ หนึ่งในกิจกรรมคู่ขนานสำคัญของเวทีระดับนานาชาติ คือ การบรรยายพิเศษของ “นพพล ชูกลิ่น” นักธุรกิจและผู้ก่อตั้งบริษัท ไนซ์คอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัทรีเทล บิซิเนส โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนภาคเอกชนจากประเทศไทย ที่ได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีนำเสนอประสบการณ์จริงในหัวข้อ“Innovation in Criminal Justice Responses: Digitally and Socially” นวัตกรรมสู่การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรม

เนื้อหาหลักของการนำเสนอ คือ “โมเดลให้โอกาสครั้งที่ 2” ที่เปิดรับผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงเข้าสู่ระบบการทำงาน ตั้งแต่ยังอยู่ในเรือนจำ ไปจนถึงการสนับสนุนต่อเนื่องหลังพ้นโทษ

โดย นพพล ได้ขับเคลื่อนแนวทางนี้ในฐานะภาคธุรกิจ ที่มองเห็นศักยภาพในตัวมนุษย์ และอธิบายโครงการนี้ว่า “ภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคม มีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มคือ ผู้ต้องขังชายที่ใกล้ได้รับการปล่อยตัว เรานำเขามาที่โรงงานของเราภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุม และที่สำคัญคือเราให้การยอมรับพวกเขา ส่วนที่สองคือผู้ต้องขังหญิงที่ได้รับโทษตลอดชีวิต เราสร้างระบบการขาย Telesales ฝึกฝนพวกเขาและจ่ายเงินเดือนในแบบเดียวกับพนักงานทั่วไป ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเราได้เห็นการลดลงของการกระทำผิดซ้ำอย่างชัดเจนตั้งแต่นั้นมา”

ปัญหาเชิงระบบต้องการความร่วมมือทุกภาคส่วน

“สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากตัวบุคคล แต่คือ ปัญหาเชิงระบบ ที่เราทุกคนต้องร่วมกันแก้ไข เราต้อง ยุติวงจรปัญหา เหล่านี้ไม่ใช่แค่พูดถึง แต่ต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การคืนคนดีสู่สังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน ก็ต่อเมื่อเราได้รับ ความไว้วางใจ ความร่วมมือ และการยอมรับจากสังคม” นพพล กล่าว

สร้างต้นแบบคืนชีวิต สร้างความหวัง 

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศไทยและ UNODC ในการส่งเสริมข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) และ Nelson Mandela Rules ที่มุ่งเน้นสิทธิมนุษยชนในเรือนจำและการพัฒนาผู้กระทำผิดอย่างยั่งยืน โดยมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมคู่ขนานอื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการตลอดช่วงสัปดาห์การประชุม

เวที CCPCJ ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทย ได้แสดงบทบาทเชิงรุกในเวทีโลก ผ่านการขับเคลื่อนรูปธรรม โมเดลนี้ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตของผู้ต้องขัง แต่ยังส่งผลต่อการออกแบบกระบวนการยุติธรรมให้ทันสมัย เป็นโมเดลต้นแบบให้ประเทศอื่นทั่วโลก