"ชัชชาติ" ยืนยัน กทม. พร้อมสนับสนุนการเก็บหลักฐานตึกสตง.ถล่ม หาตัวผู้รับผิดชอบเต็มที่

19 เม.ย. 2568 | 10:44 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2568 | 11:31 น.

ผู้ว่า ฯชัชชาติ ยืนยัน กทม. พร้อมสนับสนุนการเก็บหลักฐาน ตึกสตง.ถล่ม หาตัวผู้รับผิดชอบเต็มที่ เดินหน้าเจาะปล่องลิฟท์หาผู้ติดค้างเพิ่มเติม

 

22วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาคารสำนักงาน แห่งใหม่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน บริเวณย่านจตุจักรพังถล่ม ตั้งแต่ วันที่28 มีนาคม จนถึงวันที่ 19 เมษายน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะเดียวกัน อาจมีปัญหาความไม่เข้าใจในการทำงานของแต่ละภาคส่วน โดยเฉพาะประเด็นกรณี กรุงเทพมหานครไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าพนักงานพิสูจน์หลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุนั้น  

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

 

ล่าสุด (19 เม.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหว ว่า

เมื่อวันที่18 เม.ย. ที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกตนพร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และรศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพบเพื่อสอบถามสิ่งที่ต้องการรับการสนับสนุนหรือความช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วขณะนี้เราก็มีค่อนข้างครบ แต่อาจมีประเด็นหนึ่งที่ต้องขอรับการสนับสนุนเพิ่มคือพื้นที่สำหรับเก็บกองวัสดุที่ยังแน่นอยู่

 

ส่วนที่มีประเด็นข่าวว่าเราไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐานนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เราอยากจะให้เอาหลักฐานไปให้ได้มากที่สุดเพื่อหาผู้รับผิดชอบให้ได้ เราร่วมมือกับทุกฝ่าย อาจมีช่วง 2-3 วันแรกที่มีการค้นหาผู้รอดชีวิตอาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสารเล็กน้อย แต่ขณะนี้เราร่วมมือกับพิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง และ DSI อย่างเต็มที่ การเก็บหลักฐานเราเองไม่ได้เชี่ยวชาญ เรามีหน้าที่ค้นหาผู้ติดค้างอยู่ หลักการคือต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการฯ มาอยู่กับเรา หากอยากได้หลักฐานชิ้นใดสามารถระบุและเก็บหลักฐานชิ้นนั้นไปตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องนี้เราพร้อมดำเนินการให้ตลอด ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรร่วมมือกันได้ดี

สำหรับความคืบหน้าการค้นหาและรื้อถอนซาก วานนี้สามารถเจาะเปิดพื้นที่เพิ่มเติมได้บริเวณที่คาดว่าเป็นปล่องลิฟท์และบันไดหนีไฟ ทำให้พบผู้ที่ติดอยู่ในบริเวณดังกล่าวประมาณ 6 ร่าง ด้านภารกิจการรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สามารถลดระดับความสูง

เร่งรื้อซากอาคาร

บริเวณโซน B และ C เหลือประมาณ 10 เมตร ส่วนโซน A และ D ระดับความสูงเหลือ 12 เมตร วันนี้จะดำเนินการเจาะบริเวณปล่องลิฟต์เข้าไปอีก คาดว่าจะพบผู้ติดค้างด้านในเพิ่มเติม ภาพรวมงานเดินไปได้ค่อนข้างดี แต่ก็พบปัญหาบ้างคือ รถเริ่มเสียมากขึ้นแต่เรามีเจ้าหน้าที่จากกรมทหารช่างที่ประจำอยู่หน้างานอยู่แล้ว

 

ในส่วนยอดผู้สูญหายที่อาจมีความสับสนเรื่องจำนวนนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หลักการคือเมื่อเราพบชิ้นส่วน ต้องให้พิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ยืนยัน เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าบางราย พบเป็นชิ้นส่วนอวัยวะแล้วเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ตอนนี้นำชิ้นส่วนออกมาแล้วกว่า 180 ชิ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพยายามเร่งดำเนินการคือการพิสูจน์ DNA พบว่ายังไม่ได้ข้อมูลอีก 10 กว่าคน ซึ่งได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศว่าจะหาข้อมูล DNA ตรงนี้เพิ่มได้อย่างไร

ทั้งนี้ นอกจากการค้นหาผู้ติดค้างแล้ว เราดำเนินการฆ่าเชื้อในพื้นที่ควบคู่กัน เนื่องจากกังวลว่าเมื่อฝนตก อาจไปชะล้างเชื้อโรคต่าง ๆ ไหลลงไปสู่ทางระบายน้ำ จึงต้องมีการควบคุมตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอด

เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสิ่งปนเปื้อนแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดอันตรายกับคน และคนที่เข้าไปในพื้นที่ทุกคน เมื่อออกมาต้องมีการสเปรย์ ล้างรองเท้า ล้างมือตลอด

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 19 เม.ย.68 เวลา 10.00 น. ผู้ประสบเหตุ 103 ราย เสียชีวิต 47 ราย บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม 47 ราย สำหรับแผนการปฏิบัติงานในวันนี้ยังคงตามแผนเดิม เพิ่มเติมงานในพื้นที่จัดเก็บวัสดุ ให้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรไปช่วยกดเหล็กและเคลียร์พื้นที่

ด้านศูนย์พักพิงญาติผู้ประสบภัย เขตจตุจักร สามารถรองรับผู้พักคอยได้ทั้งสิ้น 82 เตียง ว่าง 27 เตียง วันที่ 19 เม.ย. 68 เวลา 14.00น. มีผู้มาลงทะเบียนญาติผู้ประสบภัย จำนวน 9 ราย (เมียนมา 9 ราย) ยอดสะสมรวมทั้งสิ้น 214 ราย (ไทย 127 ราย เมียนมา 76 ราย กัมพูชา 8 ราย ลาว 3 ราย)

ล่ามอาสา 3 ราย (เมียนมา) ประสานงานการตรวจ DNA ให้กับญาติผู้ประสบภัย จำนวน 2 ราย และประสานงานและนำส่งเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 ราย