นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB เปิดเผยว่า บริษัทได้หารือกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม อย่างต่อเนื่องถึงสูตรการคำนวณอัตราค่าโดยสารในส่วนของ ป้ายย่อย ให้เหมาะสมกับป้ายจราจร ณ ปัจจุบันที่มีการปักป้ายมากขึ้นไปตามการขยายตัวของเมือง ซึ่งยึดโยงตามตารางบันไดราคาและยังคงใช้ป้ายหลักตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้บริษัทในฐานะเอกชนของคนไทย มีความตั้งใจสนับสนุนการลดค่าครองชีพของประชาชนตามนโยบายรัฐบาล จึงขอประกาศนำร่องเป็นผู้เดินรถรายแรกที่ปรับสูตรคิดอัตราค่าโดยสารให้ผู้โดยสารได้จ่ายค่าเดินทางถูกลง และสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ ลดการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับการคิดคำนวณอัตราค่าโดยสารรูปแบบใหม่ คือ ขึ้นปัดขึ้น ลงปัดลง โดยคำว่าขึ้น คำแรก หมายถึง การโดยสารขึ้นรถ หากโดยสารขึ้นที่ป้ายย่อยใด ค่าโดยสารจะถูกคิดปัดขึ้นไปที่ Main Bus หรือ ป้ายหลัก ที่ปรากฏบนตารางค่าโดยสาร ที่อยู่ Main Bus ถัดไป ที่รถยังไม่ถึง
นอกจากนี้หากดูตัวอย่างภาพด้านล่าง ของรถเมล์สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) ผู้โดยสารขึ้นรถจากป้าย แม็คโครลาดพร้าว เดินทางไปลงที่ป้าย ตรงข้ามศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าว ค่าโดยสารจะเริ่มคิดที่ป้ายหลักที่อยู่ถัดจาก ป้ายแม็คโครลาดพร้าว คือ ป้ายตรงข้ามโรงพยาบาลเวชธานี จนถึงป้ายหลักที่อยู่ก่อนถึง ตรงข้ามศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าว คือ ป้ายซอยลาดพร้าว 78
หากเป็นอัตราเดิมค่าโดยสารจะอยู่ที่ 20 บาท เมื่อปรับเป็นอัตราการคิดค่าโดยสารใหม่ผู้โดยสารจะจ่ายเพียง 15 บาท เท่านั้น เนื่องจากเป็นการคิดในระยะทางที่น้อยกว่าระยะทางจริง
อย่างไรก็ตามอัตราค่าโดยสารของรถเมล์ ไทย สมายล์ บัส ทุกคันเป็นตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกนอกจากนี้หากผู้โดยสารใช้บัตร HOP Card ก็ยังได้สิทธิประโยชน์ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily Max Fare) เดินทางได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดสายตลอดวัน แต่จ่ายค่าโดยสารสูงสุดเพียง 40 บาทต่อวัน เมื่อโดยสารรถเมล์ไฟฟ้า หรือเรือโดยสารไฟฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่ง หากจะนั่งรถต่อเรือ เรือต่อรถ ก็ชำระค่าโดยสารสูงสุดเบา ๆ เพียง 50 บาทต่อวันเท่านั้น