ttb analytics คาด เงินสะพัดสงกรานต์ลด 13.5% เหลือ 3.6 หมื่นล้านบาท

11 เม.ย. 2568 | 06:36 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2568 | 06:36 น.

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองเทศกาลสงกรานต์ 2568 เงินสะพัด 3.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 13.5% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท จากความกังวลจากเหตุแผ่นดินไหว และช่วงวันหยุดวสั้น ไม่เอื้ออำนวย 

เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เป็นปีที่มีวันหยุดสั้นเพียง 4 วัน สำหรับกลุ่มผู้ทำงานบริษัทเอกชน และ 5 วันสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งตรงกันข้ามกับปีก่อนที่มีวันหยุดค่อนข้างเอื้ออำนวยที่จะส่งผลให้เงินสะพัดช่วงสงกรานต์มากเป็นพิเศษ

ดังนั้นด้วยข้อจำกัดเรื่องกรอบเวลาที่สั้นกว่าที่คาดไว้ รวมถึงแรงกดดันจากความกังวลจากเหตุแผ่นดินไหวที่คาดมีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย 

ttb analytics คาด เงินสะพัดสงกรานต์ลด 13.5% เหลือ 3.6 หมื่นล้านบาท

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ประชาชนส่วนใหญ่มักเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงมีการเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางสูงกว่าปกติและในปี 2568 ด้วยกระแสการท่องเที่ยวในประเทศที่ยังมีแนวโน้มเติบโต คาดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 จะมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่าปี 2567 ที่ราว 5.2% 

และด้วยผลของราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าเฉลี่ย 9.1%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดจากการเดินทางเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 9.4% 

ขณะที่เม็ดเงินที่สะพัดจากค่าที่พักเฉลี่ยต่อวันเมื่อเทียบกับปีก่อนปรับเพิ่มขึ้นราว 6.2% จากผลของราคาห้องพักที่ในภาพรวมยังไม่ขยับเพิ่มมากนักจากที่มีการขยับราคาในภาพรวมในปี 2567 อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินที่คาดว่า จะสะพัดเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นมากเป็นส่วนของค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ปรับเพิ่มจากปีก่อนหน้า 17.1% และ 14.2% ตามลำดับ  

ttb analytics ประเมินว่า เม็ดเงินที่สะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยปี 2568 คาดอยู่ที่ 16,300 ล้านบาท จะลดลงจากปีก่อนที่ 17,200 บาท หรือลดลง 5.2% 

ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้เดือนมกราคม เริ่มสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสูงกว่าที่คาดด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 3.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.2% ซึ่งบางส่วนได้รับอิทธิพลจากวันหยุดยาว Golden Week ของชาวจีนที่ในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2568

แต่เดือนกุมภาพันธ์พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับพลิกหดตัว 6.9% สาเหตุหลักจากกระแสนิยมที่อ่อนแรงรุมเร้าด้วยความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในการท่องเที่ยวในไทยของชาวจีน กดดันให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงถึง 45% เหลือเพียง 0.37 ล้านคน จากเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้าที่มีจำนวนถึง 0.67 ล้านคน

อีกทั้งสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่ (ยัง) ไม่กลับมาในเดือนมีนาคม ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงเหลือเพียง 0.29 ล้านคน หรือลดลงถึง 49% และเดือนเมษายน จะยังได้รับแรงกกดันจากเหตุแผ่นดินไหวที่กระทบจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ จึงคาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนเมษายนจะมีจำนวนราว 2.24 ล้านคน ลดลง 18.9%เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 

แรงกดดันอีกประการหนึ่งคือ สัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่ปกติรายจ่ายเฉลี่ยต่อวันค่อนข้างสูงมีสัดส่วนที่ลดลงเหลือเพียงราว 11% จากที่เคยมีสัดส่วน 22% ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ก็นับเป็นอีกปัจจัยกดดันอีกประการหนึ่ง ส่งผลให้ ttb analytics มองเม็ดเงินที่สะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดอยู่ที่ 19,600 ล้านบาท ลดลง 24% จาก 24,300 ล้านบาทในปี 2567

ดังนั้น เมื่อรวมเม็ดเงินจากทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ พบเม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 คาดว่า จะหดตัวเหลือเพียง 35,900 ล้านบาท หรือลดลง 13.5% เมื่อเทียบกับในช่วงปี 2567 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากการขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในการมาเที่ยวไทย ประกอบกับนักท่องเที่ยวไทย มีช่วงวันหยุดน้อยกว่าปีก่อนๆ  

ส่งผลให้เป็นโจทย์ใหญ่ที่ภาครัฐอาจต้องหาแรงกระตุ้นเพิ่มเติม เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 และเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีความมั่นใจ และกลับมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,087 วันที่ 13 - 16 เมษายน พ.ศ. 2568