เทศกาล "สงกรานต์ 2568" นอกจากการเล่นน้ำแล้ว การไปไหว้พระเพื่อเสริมดวงและขอพรเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่ควรทำ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ไทย เพื่อเสริมโชคชะตาและมงคลในชีวิต วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จึงรวบรวมวัดยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการไปไหว้ช่วงสงกรานต์ พิกัดกรุงเทพฯ พร้อมข้อมูลเสริมดวงที่แต่ละวัดจะช่วยเสริมอะไรบ้าง
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดพระแก้ว ได้รับการสถาปนาขึ้นโดยพระราชดำริของรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2325 พร้อมกับการก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองไทย การสร้างวัดพระแก้วนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากแบบวัดพระศรีสรรเพชญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2327
ไฮไลท์: วัดนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งประดิษฐานพระแก้วมรกต ยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนเดินทางมาสักการะและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต พร้อมทั้งสามารถชมจิตรกรรมฝาผนังที่บรรยายเรื่องรามเกียรติ์อย่างละเอียดและงดงามภายในพระอุโบสถและระเบียงรอบวัด
สถานที่: ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 - 15:30 น.
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดสามจีน ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ วัดนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานและเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย แต่กลับไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาใด อย่างไรก็ตาม วัดนี้ได้รับการกล่าวขานถึงในเรื่องของการร่วมมือกันในการก่อสร้างระหว่างชาวจีน 3 คน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "วัดสามจีน"
ไฮไลท์: เมื่อมาเยือนวัดนี้คือ หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปที่มีความสำคัญทางศิลปะและประวัติศาสตร์ เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และได้มีการบันทึกลงใน กินเนสบุ๊ค ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความสวยงามและความประณีตของพุทธศิลปะในพระพุทธรูปนี้ทำให้หลวงพ่อทองคำกลายเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ สามารถขอความสำเร็จได้
สถานที่: วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร, 661 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:00 - 17:00 น.
วัดอรุณ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ "วัดแจ้ง" ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ชื่อ “วัดอรุณ” นั้นมาจากคำว่า "อรุณ" หมายถึง รุ่งอรุณหรือแสงแรกของวัน ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับพระปรางค์ที่ตั้งอยู่กลางวัด ซึ่งสะท้อนถึงแสงแห่งการเริ่มต้นใหม่อย่างเป็นมงคล
ส่วนชื่อ “วัดแจ้ง” ที่หลายคนคุ้นเคยกันนั้น มีการเล่าขานว่าเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จมาถึงที่วัดนี้ในช่วงเวลารุ่งอรุณตอนที่ทรงตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี จึงทรงพระราชทานชื่อใหม่ว่า “วัดแจ้ง” ทว่าความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการบันทึกในวรรณกรรมสมัยอยุธยาเรื่อง เพลงยาวหม่อมภิมเสน ซึ่งกล่าวถึงวัดนี้ในชื่อ “วัดแจ้ง” ตั้งแต่ก่อนนั้นแล้ว
ไฮไลท์: คือ พระปรางค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัดนี้ พระปรางค์นี้มีความสูงถึง 79 เมตร และตกแต่งด้วยเครื่องลายครามที่สวยงามและวิจิตร เป็นหนึ่งในตัวอย่างของศิลปะกรุงศรีอยุธยาที่ยังคงความงดงามและความยิ่งใหญ่ของยุคนั้นได้อย่างชัดเจน
พระปรางค์นี้ยังมีความเชื่อว่าหากได้ไปกราบไหว้และขอพรจากองค์พระปรางค์จะช่วยเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต โดยเฉพาะในด้านการงานและธุรกิจ
สถานที่: วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: วัดเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 - 18:00 น.
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดภูเขาทอง" เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเดิมชื่อว่า "วัดสะแก" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นวัดสระเกศในสมัยรัชกาลที่ 1 สถานที่สำคัญของวัดนี้คือเจดีย์ภูเขาทอง ซึ่งเริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 และแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 เจดีย์นี้มีความสูงถึง 77 เมตร และในยอดของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์
ไฮไลท์: ไปกราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์จำลอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ นับเป็นสถานที่สำคัญที่ให้ความสงบและเสริมสร้างความศรัทธาให้กับผู้ที่มาเยือน ขอพรด้านความมั่นคงในชีวิต
สถานที่ตั้ง: ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07:00 - 19:00 น.
วัดโบราณที่มีอายุยาวนาน ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นโทที่สร้างขึ้นในสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นวัดที่คนไทยนิยมมาไหว้ขอพรเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะการขอให้ประสบความสำเร็จและชัยชนะในทุกสิ่ง ชาวพุทธเชื่อว่าเมื่อมาที่วัดนี้จะได้ชัยชนะเหนืออุปสรรคต่างๆ เหมือนกับชื่อของวัดที่สะท้อนถึงความสำเร็จ
ไฮไลท์: คือการสักการะพระประธานในพระอุโบสถ "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่บุด้วยดีบุกและลงรักปิดทองในท่าปางมารวิชัย ที่ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีความงดงามและอิ่มเอมไปด้วยพลังศรัทธา
สถานที่ตั้ง: วัดชนะสงคราม ตั้งอยู่บนถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาเปิด-ปิด: ให้เข้าชมและสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:00 น.
เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติให้กับพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี โดยได้รับการออกแบบแผนผังและการก่อสร้างจากเจ้าพระยายมราช (บุนนาค ยมนาค) ซึ่งนอกจากพระอุโบสถแล้ว ยังรวมถึงการสร้างโลหะปราสาทที่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วย
ไฮไลท์: ภายในพระอุโบสถมีการประดิษฐานพระพุทธเสฏฐตมมุนินทร์ ซึ่งหมายถึงพระพุทธองค์ผู้ทรงความประเสริฐยิ่งใหญ่เหนือพระมุนีใดๆ ในโลก นอกจากนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวพุทธประวัติทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
โลหะปราสาทของวัดราชนัดดาราม ถือเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกในประเทศไทย สร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 9 หลังจากใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 160 ปี ตัวปราสาทมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมียอดปราสาทสูงถึง 37 ยอดภายใน ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและการก่อสร้างของโลหะปราสาทให้ชม สำหรับขอพรแนะนำเป็นเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวยเงินทอง
สถานที่ตั้ง: 2 ถนนมหาไชย แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
วัดระฆังตั้งอยู่ในย่านบางกอกน้อยของกรุงเทพมหานคร มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งเดิมมีชื่อว่า "วัดบางหว้าใหญ่" วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะ โดยเฉพาะหอพระไตรปิฎกที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและน่าสนใจ วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 1 เมื่อยังทรงดำรงตำแหน่งในสมัยธนบุรี และเมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ทรงโปรดให้รื้อหอประทับนั่งมาถวายเป็นหอพระไตรปิฎก พร้อมทั้งมีพระราชประสงค์ในการบูรณะวัดให้มีความงดงามมากยิ่งขึ้น
ในอดีตมีการขุดพบระฆังหนึ่งลูกที่วัด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระองค์ยังทรงสร้างระฆังชดเชยให้กับวัดแห่งนี้จำนวน 5 ลูก หลังจากนั้นพระองค์จึงพระราชทานชื่อใหม่ให้วัดว่า "วัดระฆังโฆสิตาราม"
ไฮไลท์: คือลูกศิษย์และผู้มาเยือนมักไปสักการะหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนในพื้นที่และทั่วประเทศ
สถานที่: 250 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 - 17:00 น.
เป็นวัดประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเดิมทีเป็นหมู่บ้านที่เรียกกันว่า "กุฎีจีน" ที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ ก่อนจะมีการสร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ. 2368 โดยต้นสกุลกัลยาณมิตร ซึ่งได้อุทิศบ้านและที่ดินให้เป็นที่สร้างวัด และถวายเป็นพระอารามหลวงในที่สุด พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชาติ
ภายในวัดมีพระวิหารหลวงที่สำคัญ ซึ่งมีพระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หลวงพ่อโต" เป็นพระประธานประจำวัด โดยพระพุทธรูปนี้มีขนาดใหญ่และเป็นปูนปั้นปางมารวิชัย ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับวัดพนัญเชิงในกรุงเก่า ด้วยพระประสงค์ของรัชกาลที่ 3 ให้มีพระประธานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายนอกกำแพงเมือง
ไฮไลท์: คือการได้ไปสักการะพระพุทธไตรรัตนนายก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ในวิหารหลวง
สถานที่: ซอยอรุณอมรินทร์ 6 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น.
มรดกศิลปะไทยแห่งพระราชา เดิมชื่อ "วัดแหลม" หรือ "วัดไทรทอง" วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามได้รับการเปลี่ยนชื่อจากพระราชทานในรัชกาลที่ 5 โดยมีความหมายว่า "วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5" วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตดุสิตของกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งในวัดที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมและศิลปะไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
การออกแบบวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามเป็นผลงานของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งได้เนรมิตสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์รวมของความสวยงามและศิลปะไทยที่แท้จริง มีสถานที่สำคัญภายในวัดมากมาย เช่น ศาลาสี่สมเด็จ, หอระฆังบวรวงศ์, พระที่นั่งทรงธรรม, พระที่นั่งผนวช, พระวิหารสมเด็จ, ศาลาอุรุพงศ์ และอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความสง่างามของสถาปัตยกรรมไทย
ไฮไลท์: คือพระอุโบสถที่ประดับด้วยหินอ่อนจากอิตาลี และผนังของพระอุโบสถไม่ได้เป็นจิตรกรรมที่เกี่ยวกับพุทธชาดก แต่เป็นลวดลายเทพนมพุ่มข้าวบิณฑ์สีเหลืองบนพื้นขาว
สถานที่: 69 ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 - 18:00 น.