กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเลี่ยงใช้น้ำแม่น้ำกก เผยโลหะหนักเกินมาตรฐาน

07 เม.ย. 2568 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :07 เม.ย. 2568 | 09:32 น.

กรมควบคุมมลพิษ ตรวจพบการปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกก พื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ หลีกเลี่ยงการบริโภคและอุปโภคโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการจัดการสารเจือปน

วันนี้ 8 เมษายน 2568 จากการตรวจวัดการปนเปื้อนโลหะหนักแม่น้ำกก ในพื้นที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่บริเวณชายแดนไทย-พม่า จนถึงก่อนเข้าเขตจังหวัดเชียงราย พบสารหนู(As) เกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดิน และบริเวณชายแดนไทย- พม่า ยังพบค่าตะกั่ว (Pb) มีค่าเกินมาตรฐาน นั้น

นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (สคพ.1/เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า  ผลการตรวจคุณภาพน้ำแม่น้ำกก (แหล่งน้ำประเภทที่ 2 ได้รับน้ำทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท ใช้ประโยชน์เพื่อการอนุรักษ์สัตว์น้ำ การประมง การว่ายน้ำ และกีฬาทางน้ำ) อยู่ในเกณฑ์ “เสื่อมโทรม” ทั้ง 3 จุด จากพารามิเตอร์ที่สำคัญมีค่าเกินมาตรฐาน ดังนี้

1. พารามิเตอร์ที่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำ โดยมีค่าเกินมาตรฐาน ได้แก่ ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD) การปนเปื้อนของแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด (TCB) ฟีคอลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย (FCB) เกินทั้ง 3 จุด ซึ่งแสดงถึงแหล่งน้ำมีความสกปรกในรูปสารอินทรีย์สูง และการปล่อยน้ำเสียจากแหล่งชุมชนจากกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ได้ผ่านการบำบัดลงสู่แหล่งน้ำ มีการปนเปื้อนจากอุจจาระของสัตว์เลือดอุ่น รวมถึงแอมโมเนีย (NH3) สูงเกินมาตรฐาน บริเวณจุดเก็บแม่อาย 03 เกิดจากการย่อยสลายของโปรตีนซากพืชซากสัตว์ในแหล่งน้ำ

2. ค่าความขุ่นสูง โดยเฉพาะจุดแรกที่ติดชายแดนไทย-พม่า คือ 988 NTU  รวมทั้งจุดที่ 2 และจุดที่ 3 คือ 171, 139 NTU ตามลำดับ ซึ่งแหล่งน้ำโดยทั่วไปไม่ควรมีค่าเกิน 100 NTU (1 NTU = 1มิลลิกรัม ของความขุ่น (formazin) ในน้ำ 1ลิตร) เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของสัตว์น้ำและพืชน้ำ


กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเลี่ยงการใช้น้ำแม่น้ำกก เหตุโลหะหนักเกินมาตรฐาน

 

 

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเลี่ยงการใช้น้ำแม่น้ำกก เหตโลหะหนักเกินมาตรฐาน

3. โลหะหนัก พบพารามิเตอร์ที่เกินมาตรฐาน ได้แก่ ตะกั่ว (Pb) และ สารหนู (As) ดังนี้

  • ตะกั่ว (Pb) เกินจุดที่ 1 บริเวณชายแดน มีค่าเท่ากับ 0.076 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.05 mg/L) โดยการปนเปื้อนตะกั่วในแหล่งน้ำมักมีสาเหตุมาจากการปล่อยน้ำเสีย จากโรงงาน จากเหมืองแร่ และ จากน้ำฝนที่ชะล้างสารตะกั่วจากอากาศและพื้นดินลงสู่แหล่งน้ำ ผลต่อร่างกายของตะกั่วที่เป็นโลหะหนักที่มีพิษร้ายแรงต่อมนุษย์และสัตว์ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ทางอาหารและน้ำ ทางลมหายใจ และทางผิวหนัง พิษจากตะกั่วทำให้ร่างกายมีความผิดปกติต่างๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางประสาทและกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ คลุ้มคลั่ง เกิดความคิดสับสน ปวดศรีษะ ถ้าได้รับปริมาณมากอาจชักและตายได้ ร่างกายตามารถขับถ่ายตะกั่วออกมาได้เพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือจะสะสมอยู่ในร่างกายที่ตับ ไต เลือดและเซลล์ต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายได้ในภายหลัง
  • สารหนู  (As) เกินทั้ง 3 จุด มีค่าเท่ากับ 0.026 0.012 และ 0.013 mg/L ตามลำดับ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.01 mg/L) โดยสารหนูพบได้ในน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำบาดาลซึ่งเกิดจากการละลายของแร่ธาตุในน้ำ รวมถึงน้ำทิ้งจากโรงงานที่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืชหรือสัตว์ โดย “สารหนู” จะส่งผลกระทบกับคนที่เล่นน้ำจะแพ้ ระคายเคือง มีผื่นคัน ในระยะยาวหากรับต่อเนื่องอาจเป็นมะเร็งได้ หากดื่มน้ำที่มีสารหนูเข้าไปก็จะส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการทางเคมีในร่างกายผิดเพี้ยน ถ้ารับไปนิดหน่อยอาจทำให้ท้องร่วง ท้องเสียได้ เมื่อสะสมระยะยาวอาจเป็นมะเร็ง

สคพ.1 ได้แจ้งผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่หลีกเลี่ยงการอุปโภค บริโภค หรือการลงสัมผัสน้ำโดยตรงในแม่น้ำกก การนำน้ำมาเพื่อการประปาจะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพระบบ และตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาอย่างสม่ำเสมอ และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านสุขภาพอนามัย ด้านคุณภาพน้ำ ด้านอาหาร การประมง  ดำเนินการตรวจสอบและหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป นายอาวีระ กล่าว