คพ.สร้างการรับรู้ถึงชุมชน 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมลดหมอกควัน -ฝุ่น PM2.5

23 ก.พ. 2568 | 00:18 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.พ. 2568 | 00:19 น.

คพ. สร้างการรับรู้ถึงชุมชน 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมลดหมอกควัน -ฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม

 

ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม โดยแหล่งกําเนิดฝุ่นละอองที่สําคัญ คือ การเผาในพื้นที่ป่า การเผาพื้นที่เกษตรในป่า และพื้นที่เกษตรทั่วไป หมอกควันข้ามแดน

สร้างการรับรู้ชุมชน

เมื่อรวมกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่มีความกดอากาศสูง ทำให้อากาศปิด ลมสงบ ฝุ่นละอองไม่ฟุ้งกระจายสะสมในพื้นที่จนเกินมาตรฐาน รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความสำคัญกับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทาง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนอย่างทั่วถึง

 

 

 

 

 

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่ากรมควบคุมมลพิษ  ได้จัดสัมมนาเครือข่ายสร้างการรับรู้ ลดหมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

ปรีญาพร สุวรรณเกษ

มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีประชาสัมพันธ์จังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด – อำเภอ สาธารณสุขจังหวัด - อำเภอ - รพ.สต.ในพื้นที่เข้าร่วม

เน้นสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบจากไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 การสร้างความเข้าใจในนโยบายและแนวทางการจัดการการสื่อสารประชาสัมพันธ์ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านมลพิษและด้านสาธารณสุข สร้างเครือข่ายขับเคลื่อนเพื่อส่งต่อข้อมูลข่าวสาร สร้างการรับรู้สู่ชุมชนในระดับพื้นที่ ผ่านช่องทางการเผยแพร่ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับหมู่บ้านและชุมชน

 กิจกรรมสัมมนาดังกล่าว ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้ง 17 จังหวัด มีผลสำเร็จเป็นกลุ่มเครือข่ายการสื่อสารในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของภาคีเครือข่ายไปถึงพี่น้องประชาชน ทุกหน่วยงานได้ร่วมผลิตสื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ เช่น สื่อวิทยุใช้ภาษาถิ่น

เพื่อสื่อสารไปถึงพี่น้องประชาชน การสื่อสารผ่านหอกระจายข่าว เสียงตามสาย สื่อโซเชียลประเภทไลน์กลุ่มในหมู่บ้านหรือกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างความรู้ ความเข้าใจ สาเหตุ การป้องกัน และแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 รวมถึงเป็นช่องทางการแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์ของฝุ่น PM2.5 และคุณภาพอากาศในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที นางสาวปรีญาพร กล่าว