จากกรณีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 30 คน เดินทางไปที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ดำเนินคดีกับ “นัตตี้” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ซึ่งเป็นอดีตนักร้อง และแดนเซอร์
หลังถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดย ทนายไพศาล เปิดเผยว่า ผู้เสียหายกลุ่มนี้ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ว่าถูกหลอกให้นำเงินไปร่วมลงทุนผ่านแอพพลิเคชั่น เมื่อตรวจสอบก็พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน
โดยมีผู้เสียหายรวมกว่า 6 พันคน โดยมีผู้ที่ลงทุนสูงสุด 18 ล้านบาท และยังไปเกี่ยวข้องกับคดีที่ประเทศสิงคโปร์ ที่หญิงชาวไทย กับสามีชาวสิงคโปร์ ร่วมกันฉ้อโกงนาฬิกาหรูและสินค้าแบรนด์เนมจากลูกค้า มูลค่ากว่า 800 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดวันนี้(วันที่ 30 สิงหาคม 65 )มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดย พ.ต.ท.วัฒนา เกตุอำไพ รอง ผกก.สอบสวน กก.3 บก.สอท.5 ได้ขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ เลขที่ 1596/2565 ลงวันที่ 7 สิงหาคม น.ส.สุชาตา คงษุภจักร์ หรือ น.ส.ลีอาห์ คงจักร หรือ น.ส. นัทธมณ คงจักร์ อายุ 30 ปี หรือ ‘นัตตี้’
รวมทั้งออกหมายจับเลขที่ 1649/2565 ลงวันที่ 17 สิงหาคม นางสาวณิชาภัทร รัตนนุกรม อายุ 33 ปี เลขาฯ ของนัตตี้ ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ บิดเบือนหรือปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน, โฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนในการกู้ยืมเงิน ว่าจะจ่ายหรืออาจจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะจ่ายได้
โดยรู้อยู่แล้วว่าจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ ที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนเพียงพอที่จะนำมาจ่าย และเป็นเหตุให้ได้กู้ยืมเงินไป
สืบเนื่องจากผู้ต้องหามักจะโพสต์กิจกรรมหรือความร่ำรวยโดยการซื้อสินทรัพย์ บ้าน ที่ดิน โรงงาน และรถยนต์หรู ซึ่งอ้างว่าได้ทรัพย์สินมาจากการเทรดหุ้น ผ่านโบรกเกอร์ “IQ option” และแคปหน้าจอกราฟการเทรดที่ได้กำไร มาโพสต์โชว์ ให้ผู้ติดตามหรือแฟนคลับ
อีกทั้งเชิญชวนให้แฟนคลับหรือผู้ติดตามสมัครเรียนโดยอ้างว่ารู้เทคนิคการเทรดให้ได้กำไร 100 เปอร์เซ็นต์ หรือร่วมลงทุนในสัญญาฝากทรัพย์ กับบริษัท สุชาตา จำกัด
โดยรับประกันว่าจะได้รับกำไรอย่างแน่นอน ในลักษณะขั้นบันไดซึ่งคิดคำนวณจาก เงินที่ร่วมลงทุน อีกทั้งกำหนดวงรอบการจ่ายเงินปันผลเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งในช่วงแรกของการลงทุน ผู้ร่วมลงทุนจะได้รับเงินปันผลตามสัญญา
แต่หลังจากนั้นจะเริ่มเกิดปัญหา ซึ่งผู้ต้องหามักอ้างว่า เกิดจากระบบการเทรดของ โบรกเกอร์ IQ option จนกระทั่งมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับทาง บช.สอท. มูลค่าความเสียหายกว่า 32,626,112 บาท จนนำมาสู่การออกหมายจับครั้งนี้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นัตตี้ เปลี่ยนชื่อ 3 ครั้ง น.ส.สุชาดา คงษุภจักร์ , น.ส. นัทธมณ คงจักร์ และ น.ส.ณิชาภัทร รัตนนุกรม