'โรคมือเท้าปาก' ที่มาพร้อมหน้าฝน' ถ้าเด็กเป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

07 ส.ค. 2565 | 05:39 น.

รวมเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ 'โรคมือเท้าปาก' โรคฮิตที่มาพร้อมกับหน้าฝน ไวรัสที่แพร่ระบาดผ่านน้ำลายและอุจจาระ ขณะเมื่อลูกเป็นโรคมือเท้าปากควรรักษาอย่างไร แพทย์รามาฯ มีข้อแนะนำ และวิธีป้องกันโรคมือเท้าปาก

7 สิงหาคม 2565 - ผศ. นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ จากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเปิดเผยว่า ขณะนี้ แผนกกุมารเวช หลายโรงพยาบาล มีเด็กเล็กจำนวนมาก เดินทางมาหาแพทย์ ด้วยอาการของ 'โรคมือเท้าปาก' ซึ่งแม้จะเป็นโรคฮิตปกติในช่วงฤดูฝนของทุกปี แต่ความน่ากลัวของ 'โรคมือเท้าปาก' ที่มาพร้อมกับฝน คือ เชื้อจะยิ่งแข็งแรงมาก ขณะเด็กเล็ก ๆ มีการเล่นใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัว จึงเป็นที่มาของการระบาดอย่างง่าย 

 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่ผู้ปกครองมือใหม่ 'ฐานเศรษฐกิจ' นำข้อมูลเผยแพร่ของ 'รามาแชนแนล' ซึ่งมีการอธิบายถึงสาเหตุของโรคมือเท้าปาก อาการ และ วิธีรักษาโรคมือเท้าปากในเด็กเล็ก แบบเข้าใจง่าย มานำเสนอดังนี้ 

'โรคมือเท้าปาก' ที่มาพร้อมหน้าฝน' ถ้าเด็กเป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

โรคมือเท้าปาก เกิดจากอะไร?

โรคมือเท้าปาก เกิดจากไวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อ Enterovirus ผ่านการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนกับน้ำลายหรืออุจจาระของผู้ที่ป่วยอยู่ ดังนั้นแค่จับลูกบิดประตูหรือเล่นของเล่นชิ้นเดียวกันก็มีโอกาสติดเชื้อได้แล้ว แถมเชื้อยังสามารถแพร่ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มมีอาการเลย โดยระยะที่แพร่เชื้อได้มากคือสัปดาห์แรกหลังมีอาการ แต่บางรายก็ยังสามารถตรวจพบเชื้อในอุจจาระได้ แม้จะหายดีแล้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์

 

อาการและความรุนแรงของโรคมือเท้าปาก

เด็กที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก มักเริ่มต้นด้วยอาการไข้ มีแผลในปาก ตั้งแต่บริเวณของเพดานแข็งเพดานอ่อนหรือบางคนก็พบที่กระพุ้งแก้มหรือที่ลิ้น บางคนเป็นเยอะลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบ ๆ ริมฝีปากเลยก็มี นอกจากนั้นจะมีผื่นที่มือและเท้า ส่วนใหญ่จะเป็นตุ่มแดง ๆ หรือบางครั้งก็เป็นตุ่มน้ำใสบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น

นพ.ชนเมธ ยังกล่าวว่า ปัจจุบัน คนมักเข้าใจผิด ถึงอาการ ว่ามีแค่ตุ่มใสตามมือเท้า หรือมีแผลร้อนในเท่านั้น เพราะบางคนอาจมีอาการท้องเสีย ไข้ขึ้น ชัก หรือถ้ารุนแรงก็อาจถึงขั้น เป็นก้านสมองอักเสบ และมีโอกาสเสียชีวิตที่สูงเลย  ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูกให้ดี ถ้าเห็นว่าลูกมีอาการซึมลง หายใจหอบ หายใจเร็ว มีอาการชัก เกร็ง หมดสติ หรือมือสั่น ขาสั่น เดินเซ ให้รีบพามาหาหมอด่วน ๆ 

'โรคมือเท้าปาก' ที่มาพร้อมหน้าฝน' ถ้าเด็กเป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

ถ้าลูกเป็นโรคมือเท้าปาก ต้องรักษาอย่างไร 

ส่วนใหญ่โรคนี้ก็จะหายได้เองใน 5-7 วัน  ซึ่งคุณหมอก็จะรักษาไปตามอาการ ถ้ามีไข้ก็ให้กินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวลดไข้ไป ถ้ามีอาการคัน ก็พาไปฝากครรภ์ หยอก ๆ ๆ ถ้าคันมากก็อาจให้กินยาแก้แพ้ แก้คันแทน  แต่ถ้าอาการดูไม่ดีขึ้นให้มาพบแพทย์อีกครั้ง 

 

ทำอย่างไร?หากไม่อยากให้ลูกติดเชื้อ โรคมือเท้าปาก

ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 ซึ่งช่วยป้องกันโรคมือเท้าปากและภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อนี้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อในกลุ่ม Enterovirus ชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากได้ทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีวิธีรับมือ ดังต่อไปนี้ 

  • การหยุดการแพร่เชื้อ ถ้าเด็กคนไหนเป็นโรคขึ้นมาก็ต้องให้หยุดเรียนไปก่อนจนกว่าจะหายเพื่อลดการกระจายของเชื้อ เพราะอย่างที่ระบุเบื้องต้น ว่ามันสามารถแพร่ได้จากการสัมผัสกับสิ่งที่ปนเปื้อนน้ำลายหรืออุจจาระ ซึ่งเด็ก ๆ ก็อาจระวังเรื่องนี้กันไม่มากนัก
  • โรงเรียนบางแห่งถ้าพบว่ามีเด็กเป็นโรคนี้จะสั่งหยุดเรียนแล้วทำการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพราะถ้าไม่เคลียร์ให้จบ อีกไม่กี่วันก็จะเป็นกันทั้งโรงเรียนแน่นอน แถมเชื้อพวกนี้ให้สเปรย์แอลกอฮอล์มาพ่นใส่ไม่ตาย ต้องจัดการมันด้วยผงซักฟอกหรือน้ำสบู่เท่านั้นจึงจะสะอาดหมดจด
  • ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยให้ถูกต้อง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมทั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ ส่วนคุณพ่อคุณแม่นั้น แม้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็อาจเป็นพาหะไปติดน้อง ๆ คนอื่นได้ ดังนั้นถ้าไปสัมผัสน้อง ๆ ที่ป่วยอยู่ ควรล้างมือด้วยเช่นกัน

 

ที่มาข้อมูล : รามาแชนแนล