"ม.ราม" วุ่น ซัดกันนัวใน "สภามหาวิทยาลัย" ปมไม่ตั้ง "รองอธิการบดี" 30ตำแหน่ง

12 ก.ค. 2565 | 08:28 น.

"ม.ราม" วุ่น ประชุม "สภามหาวิทยาลัย" ซัดกันดุเดือด ผู้ช่วยอธิการฯกลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือจี้ ปมยังไม่เคาะตั้ง "ตำแหน่งรองอธิการบดี" 30ตำแหน่ง

วันที่ 12 ก.ค. 65 รายงานข่าวจากจากมหาวิทยาลัยรามคำเเหง(ม.รามคำแหง) ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ได้มี การประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อพิจารณาระเบียบวาระต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า  

 

ปรากฎว่าได้มีผู้ช่วยอธิการบดี กลุ่มหนึ่งประมาณ10คน ได้เข้าชื่อทำหนังสือถึง อุปนายกสภามหาวิทยาลัย ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยอ้างว่า การที่สภามหาวิทยาลัยได้ชะลอการแต่งตั้งรองอธิการบดี 30คน ตามที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำเเหงเสนอ ทำให้ตนไม่มีโอกาสตำรงตำแหน่งรองอธิการบดี  

 

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้มีการแต่งตั้งรองอธิการบดีทั้ง 30คน มิเช่นนั้น ผู้ร้องขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายกับสภามหาวิทยาลัยต่อไป

รายงานข่าวเเจ้งว่า ในวันนั้นบรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดย ศาสตราจารย์สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัย ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย ประธานในที่ประชุม ได้อธิบายให้ที่ประชุมว่า หลังจากที่สภามหาวิทยาลัยได้มีการยับยั้งการแต่งตั้งรองอธิการบดี 30คนไปเมื่อวันที่ 25เมษายนแล้ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์  ไม่เคยนำเรื่องนี้กลับเข้าสู่ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอีกเลย

 

สภามหาวิทยาลัยได้เคยชี้แจงแล้วว่า การแต่งตั้งรองอธิการบดีอีก 30 คน จะทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีรองอธิการบดีที่แต่งตั้งใหม่รวมกับที่แต่งตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้รวมทั้งสิ้นมากถึง 45คน ซึ่งไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างยิ่ง


รายงานข่าวอ้างคำพูดของอุปนายกสภามหาวิทยาลัย ด้วยว่า การที่อธิการบดีไม่ได้นำเรื่องกลับมาอีกก็เป็นดุลพินิจของอธิการบดี สภามหาวิทยาลัยไม่ได้ขัดขวางการแต่งตั้งแต่อย่างใด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสภามหาวิทยาลัยคำนึงถึงผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ  

 

ดังนั้น หากกลุ่มอาจารย์ดังกล่าวต้องการเป็นรองธิการบดีก็ควรหารือกับอธิการบดีเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามช่องทางที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ใช้วิธีเรียกร้องในลักษณะตำหนิและข่มขู่สภามหาวิทยาลัยอย่างไร้เหตุผล  การตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ข่มขู่สภามหาวิทยาลัยเช่นนี้มีแต่จะสร้างความแตกแยกและไม่ใช่วิสัยที่วิญญูชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เป็นครูบาอาจารย์พึงกระทำ

รายงานข่าวกล่าวว่า"ในวันนั้นกรรมการสภาบางคนได้กล่าวว่า ไม่เคยปรากฎมาก่อนว่า ผู้ที่ต้องการเป็นรองอธิการบดีเรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งตนเองเช่นนี้ ไม่ใช่แบบอย่างที่ดีที่เหมาะสำหรับผู้ที่อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ในมหาวิทยาลัย และกรรมการบางคนยังท้วงติงด้วยว่า อธิการบดีไม่ควรปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนกระทำการเคลื่อนไหวอย่างไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย "


รายงานข่าวกล่าวว่า ส่วนกรรมการสภาฝ่ายที่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยกลับโต้แย้งว่าควรดูเจตนารมณ์ของคณาจารย์กลุ่มนี้โดยไม่ได้พิจารณาต่อข้อท้วงติงของกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิแต่อย่างใด


สำหรับบรรยากาศในการประชุมวันนั้น รายงานข่าวระบุว่า เกิดความตึงเครียดเป็นระยะ ๆ จนถึงขนาดประธานในที่ประชุมต้องออกปากให้กรรมการคนหนี่งออกนอกห้องประชุมและขอให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ อย่าเห็นแก่ผู้ที่หวังแต่เพียงจะมีตำแหน่งบริหารในมหาวิทยาลัยเท่านั้น


"จากนั้นที่ประชุม ได้มีมติให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้อธิการบดีชี้แจงให้กลุ่มผู้ช่วยอธิการบดีดังกล่าวเข้าใจ และให้คณะกรรมการจรรยาบรรณของมหาวิทยาลัยพิจารณาว่าการเรียกร้องของคณาจารย์กลุ่มนี้ ผิดจรรยาบรรณของความเป็นอาจารย์หรือไม่และรายงานให้สภามหาวิทยาลัยทราบต่อไป"

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ผู้ช่วยอธิการบดีทั้ง 30คนที่เคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองอธิการบดี แม้จะยังไม่ได้รับการแต่งตั้งก็ตาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ในฐานะอธิการบดี ได้อนุมัติให้ผู้ช่วยอธิการบดีทั้ง 30คนเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลและคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยและได้รับค่าตอบแทนในการเข้าประชุมแต่ละครั้งอีกด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่มีบทบัญญัติในระเบียบหรือข้อบังคับใดที่ระบุให้สามารถกระทำได้ นับเป็นกระทำที่อาจขัดต่อข้อบังคับของมหาวิทยาลัยและอาจเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องตนเอง


"ล่าสุด ยังได้มีการรีบเร่งจัดซื้อไอแพด (Ipad) แจกให้คณะผู้บริหารทุกคนอีกด้วย โดยอ้างว่าเพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารและใช้สำหรับการประชุม และที่มอบให้ไม่ใช่เป็นการให้แต่เป็นการให้ยืมไปใช้เท่านั้น ผู้บริหารบางรายปฏิเสธที่จะรับเพราะเกรงว่าไม่มีระเบียบใด ๆ รองรับและอาจถูกตั้งกรรมการสอบภายหลังได้
 

นอกจากนั้น ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยครั้งล่าสุดนี้ อธิการบดี ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด