"ศิริราช"ออกประกาศคุมเข้มการใช้กัญชาพื้นที่โรงพยาบาล ยกเว้นทางการแพทย์

18 มิ.ย. 2565 | 02:29 น.

"ศิริราช " ออกประกาศ ห้ามใช้ ห้ามขายอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกัญชา ภายในพื้นที่ของโรงพยาบาล หนุนประกาศสาธารณสุข

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง มาตรการดำเนินการการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุว่า...

 

คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในฐานะสถาบันการแพทย์ของประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงทั้งประโยชน์และผลอันไม่พึงประสงค์ของการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ที่อาจส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มารับบริการของโรงพยาบาลในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช ,โรงพยาบาลศิริราช ปียมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก

 

 

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาสัยมหิดล ขอสนับสนุนมาตรการควบคุมการใช้สมุนไพรกัญชา ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 และประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องการห้ามจำหน่าย โฆษณา และบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือกัญชงในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ในการนี้ จึงขอประกาศมาตรการดำเนินการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อเป็น ต้นแบบของสถานพยาบาลที่ปลอดการใช้สมุนไพรกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซง และพืชในตระกูล Cannabis ดังนี้

  • 1.ห้ามมิให้มีการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

  • 2.ห้ามมิให้มีการโฆษณา การส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรม การจัดจำหน่าย และการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูลCannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

  • 3.ห้ามมิให้ประชาชนทั่วไป ผู้มารับบริการ บุคลากรและนักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซงและพืชในตระกูล Cannabis เพื่อสันทนาการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

  • 4.คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอสนับสนุนแนวทางการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เฉพาะในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ตามความเห็นของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ในบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง

 

  • 5.คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สนับสนุนให้มีการศึกษาและวิจัย ตลอดจนการนำสมุนไพรกัญชา และพืชในตระกูล Cannabis มาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด

ขณะที่ ศ.คลินิก ดร.แพทย์หญิงนลินี จงวิริยะพันธุ์ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องผลกระทบจากการบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา  โดยห่วง การปลดล็อคกัญชา จะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงและบริโภคกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่ มีส่วนผสมของกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับ สาร THC ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในกัญชา เกินขนาด จะมีผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะบุคคลที่มีความไวต่อสารนี้จะเกิดอาการแพ้แม้ได้รับในปริมาณไม่มาก และอาจรุนแรงถึงแก่ ชีวิตได้ ทั้งยังพบว่า THC ใช้เวลาอยู่ในร่างกายยาวนานหลายชั่วโมง ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ในทันทีจากการได้รับสารดังกล่าว จนอาจทำให้บริโภคในปริมาณที่เกินขนาดได้ 


สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ จึงมีข้อเสนอแนะดังนี้

 

1. การนำกัญชามาประกอบหรือปรุงอาหารนั้น ใช้ได้เพียงบางส่วนของต้นกัญชาเท่านั้น ส่วนที่แนะนำให้นำมาใช้ประกอบหรือปรุงอาหารคือ ใบสดของกัญชา และเริ่มต้นไม่เกินครึ่งใบถึงหนึ่งใบ เพื่อประเมินผลข้างเคียงและการแพ้ส่วนประกอบในใบกัญชา ในขณะที่ช่อดอกของกัญชามี THC สูงและไม่เหมาะสมที่ จะนำมาใช้บริโภค

 

2. การปรุงประกอบอาหารด้วยความร้อนจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณสาร THC ดังนั้น หากเป็นการต้มแนะนำให้รับประทานเฉพาะส่วนน้ำ ไม่แนะนำให้รับประทานส่วนใบที่ผ่านการต้มแล้ว หากเป็นการปรุงประกอบอาหารด้วยน้ำมัน จะมีผลในการเพิ่ม THC จำนวนมาก และสาร THC ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงไม่ควรนำใบกัญชาประกอบอาหารที่ใช้น้ำมัน

 

3. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารกับประชาชนถึงผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดจากการบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา

 

4. ขอให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดกัญชา โดยห้ามจำหน่ายหรือโฆษณาอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา ภายในโรงเรียน

 

5. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุม กำกับ และเฝ้าระวังเพื่อไมให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากกัญซามีผลต่อสมองเด็กและพัฒนาการของเด็กในระยะยาว

 

6. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารปริมาณที่เหมาะสมของใบกัญชาที่ใส่ในอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มอย่างชัดเจน โดยให้มีการกำกับและเฝ้าระวังการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มอย่างเข้มงวด

 

7. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใบกัญชา บังคับให้มีการระบุคำเตือนและแจ้งปริมาณสาร THC ต่อหนึ่งหน่วยบรรจุปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากการได้รับสาร THC มากเกินไป


8. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับการห้ามใช้หรือบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาในกลุ่มผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดชั้นรุนแรง ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตเวช ผู้ป่วยที่ใช้ยาวาร์ฟาริน กลุ่มยาละลายลิ่มเลือด กลุ่มยาลดไขมันในเลือด กลุ่มยากันชัก ควรหลีกเลี่ยงการใช้กัญชาโดยไม่มีข้อบ่งขี้ทางการแพทย์ เพราะสารในกัญชาจะทำให้เพิ่มปริมาณยา ซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพจากยาเกินขนาดได้ สำหรับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

 

9. ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตอาหาร ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ในการผลิตและขายอาหารหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยมีการแสดงข้อความว่า มีการใส่กัญชาเป็นส่วนผสม และหรือแสดงปริมาณ อย่างชัดเจน

 

10. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี

 

11. ขอให้มีการติดตามประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและผลกระทบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี

 

"ศิริราช"ออกประกาศคุมเข้มการใช้กัญชาพื้นที่โรงพยาบาล ยกเว้นทางการแพทย์

"ศิริราช"ออกประกาศคุมเข้มการใช้กัญชาพื้นที่โรงพยาบาล ยกเว้นทางการแพทย์