มิสทินโหมทำตลาดเครื่องสำอางชาย เทงบ55ล.ดึง‘ออฟ’นั่งพรีเซนเตอร์

มิสทิน บุกตลาดผู้ชาย วางแผนออกสินค้าใหม่ 3 รายการ จับกลุ่มหนุ่มเมทโทรเซ็กชวล หวังกวาดยอดขายสิ้นปี 900 ล้าน ทั้งเพิ่มฐานนักขายผู้ชายเป็น 7% จากสิ้นปีคาดมีนักขายกว่า 1.2-1.3 ล้านคน ล่าสุดเทงบ 55 ล้านจับ “อ๊อฟ ปองศักดิ์” นั่งพรีเซ็นเตอร์ดินสอเขียนคิ้ว มั่นใจฐานลูกค้าชื่นชอบและนำเสนอสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกโตเล็กน้อย 1.4% ต่ำกว่าเป้าที่หวังโต 3%

นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางในระบบขายตรงแบรนด์มิสทิน (Mistine) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้เตรียมขยายตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายผู้ชาย ด้วยการผลิตสินค้าสำหรับผู้ชายออกมาทำตลาดเป็นการเฉพาะ เบื้องต้นในปีนี้ได้เตรียมออกสินค้าใหม่ 3 รายการ เป็นสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางหรือกลุ่มสีสันที่ใช้บนใบหน้า ซึ่งการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ชายนั้น เป็นเพราะปัจจุบันผู้ชายมีพฤติกรรมใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันแบรนด์มิสทินมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มผู้ชาย ที่ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าในกลุ่มบำรุงผิวและน้ำหอมเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มนักขายที่เป็นผู้ชายด้วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% โดยวางเป้าหมายว่าหลังจากทำตลาดในกลุ่มผู้ชายเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้มีฐานนักขายที่เป็นผู้ชายเพิ่มเป็น 7% จากเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนนักขายรวมทั้งสิ้น 1.2-1.3 ล้านคน

“ตลาดผู้ชายมีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเมทโทรเซ็กชวล ที่นิยมใช้เครื่องสำอางเพื่อการแต่งหน้ามากขึ้น เป็นอิทธิพลมาจากประเทศเกาหลี ซึ่งทำให้ศิลปินผู้ชายไทยก็แต่งหน้าตาม โดยเฉพาะดินสอเขียนคิ้ว จากการสำรวจจำนวน 90% บอกว่าเครื่องสำอางชิ้นแรกจะเป็นดินสอเขียนคิ้ว ทำให้บริษัททุ่มงบประมาณ 55 ล้านบาท เปิดตัวดินสอเขียนคิ้วและใช้ อ๊อฟ ปองศักดิ์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าชิ้นแรกนี้ ส่วนภายในสิ้นปีนี้จะมีสินค้าผู้ชายออกมาอีก 2 รายการด้วย ปัจจุบันมียอดขายสินค้ากลุ่มผู้ชาย 300 ล้านบาท หลังจากเปิดตลาดสินค้าผู้ชายภายในสิ้นปีนี้น่าจะทำยอดขายได้ 900 ล้านบาท”

นายดนัย กล่าวต่อว่าการคัดเลือกอ๊อฟ ปองศักดิ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เป็นการคัดเลือกจากโจทย์ทางการตลาด ที่ต้องการหาศิลปินนักร้อง ดารา หรือนักแสดงผู้ชายที่ต้องการสร้างการรับรู้ และเพื่อให้กลุ่มผู้หญิงเกิดความประทับใจในพรีเซ็นเตอร์ด้วย เนื่องจากผลการสำรวจจะพบว่า 90% ของผู้หญิงจะชื่นชอบ อ๊อฟ ปองศักดิ์ รวมถึงเป็นบุคคลที่มีบุคลิกที่สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงกับความเป็นเมทโทรเซ็กชวล และที่ผ่านมายังไม่เคยผ่านงานโฆษณาสินค้ามาก่อนด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าได้ง่าย ต่างจากศิลปินคนอื่นที่มักจะโฆษณาสินค้ามาหลายชนิด ทำให้เกิดความสับสนใจการจดจำแบรนด์สินค้าได้

สำหรับมิสทินถือเป็นแบรนด์สินค้าที่ใช้พรีเซ็นเตอร์ในการสร้างแแบรนด์ และเพิ่มยอดขายมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยการใช้พรีเซ็นเตอร์แต่ละคน จะมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโจทย์ของสินค้าหรือโจทย์ทางการตลาด แต่จากการรับรู้ของผู้บริโภคส่วนใหญ่กว่า 50% จะนึกถึงแบรนด์มิสทินในฐานะสินค้าที่มีพรีเซ็นเตอร์

ด้านผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีการเติบโต 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตในอัตรา 3% เนื่องจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีปัญหาภัยแล้งทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและกำลังซื้อในภาคเกษตรกร ส่งผลต่อยอดขายสินค้าของแบรนด์มิสทินด้วย ส่วนในไตรมาสที่ 2 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากได้มีการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงเพิ่มจำนวนนักขาย คาดว่าในไตรมาสที่ 2 น่าจะกลับมาเติบโตมากขึ้นกว่าไตรมาสแรก

“ช่วงเดือนมิถุนายน เตรียมจัดแคมเปญใหญ่เพื่อใช้ในการกระตุ้นตลาด และเพิ่มยอดขาย พยายามหากิจกรรมการตลาดที่ออกมาตอบโจทย์ทั้งนักขาย และผู้บริโภค พยายามหาลูกเล่นออกมาให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำและอยากได้สินค้า ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมของบริษัทกลับมาเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแคมเปญการตลาดต่างๆ อีกหลายแคมเปญ ที่จะออกมากระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559