"ติดโควิดกักตัวกี่วัน"ล่าสุด พ้นระยะแพร่เชื้อ แนะ 10 วิธี "กักตัว"ไม่เสี่ยง

13 เม.ย. 2565 | 06:00 น.

หลายคนมีคำถาม "ติดโควิดกักตัวกี่วัน" ล่าสุด เเบบไหนถึงจะรู้ว่าพ้นระยะแพร่เชื้อเเล้ว พร้อมแนะ 10 วิธี "กักตัว" ให้ไม่เสี่ยง

"ติดโควิดกักตัวกี่วัน" ล่าสุด การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 ผ่านมา ล่าสุด มีมติเห็นชอบให้ลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จาก “กักตัว 7 วัน และสังเกตอาการ 3 วัน” เหลือ “กักตัว 5 วัน และสังเกตอาการ 5 วัน”

ขณะที่ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ระบุว่า กักตัว 10 วันแล้วถือว่าหายดี ไม่แพร่เชื้อต่อแล้ว อาจจะไม่ได้เป็นจริงสำหรับทุกคน ตัวเลข 10 วันถือเป็น "ค่าเฉลี่ย" ที่ค่า RT-PCR จะอยู่ในช่วงที่สูงกว่า 30 ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า ปริมาณไวรัสจะมีอยู่น้อยและไม่แพร่กระจาย

สำคัญ ATK จะตรวจออกมาได้ผลเป็นลบแล้ว แต่ค่าเฉลี่ย ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน เพราะจะมีบางคนซึ่งอาจจะเป็นส่วนน้อย ที่ค่า RT-PCR อยู่ต่ำกว่า 30 และไปอยู่ในโซนที่ไวรัสยังสามารถแพร่กระจายได้อยู่ ซึ่งค่า ATK ยังเป็นบวกอยู่

 

"คนที่กักตัวครบ 10 วันแล้วเพื่อความสบายใจ ผมยังเชื่อว่า การตรวจเช็คด้วย ATK ยังมีประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการชัดเจนตอนตรวจพบเชื้อ เพราะจากข้อมูลจะเคลียร์ไวรัสได้ช้ากว่ากลุ่มคนที่อาการน้อย เราควรใช้เทคโนโลยีจาก ATK ให้ได้ประโยชน์สูงสุด อย่างกรณีนี้ผมคิดว่าเป็นการเพิ่มความมั่นใจได้ว่าเราจะออกมาใช้ชีวิตได้ปลอดภัยต่อคนรอบข้างมากขึ้น"

 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention--CDC) ของสหรัฐฯ เผยแพร่แนวปฏิบัติในการให้คนที่ตรวจพบว่า ติดโรคโควิดพบปะกับคนอื่นได้ หลังจากที่มีการกักตัว 5 วัน แต่มีเงื่อนไขอื่น ๆ ตามมา

  •  ถ้าเคยติดโรคโควิด และมีอาการ กักตัวอย่างน้อย 5 วัน
  • การคำนวณระยะเวลากักตัว 5 วัน ไม่รวมวันแรกที่มีอาการ โดยให้นับวันแรกที่มีอาการเป็นวันที่ 0 ถ้าไม่มีอาการอีกต่อไปแล้ว หรืออาการดีขึ้น
  • หลังจาก 5 วัน ก็สามารถเลิกกักตัว และออกจากบ้านได้
  • ควรเลี่ยงการเดินทางจนกว่าจะครบ 10 วันเต็ม หลังจากมีอาการวันแรก
  • หากต้องเดินทางในวันที่ 6-10 ให้สวมหน้ากากที่แนบสนิท เมื่อต้องอยู่กับคนอื่นตลอดช่วงที่เดินทาง
  • หากมีไข้ ให้กักตัวที่บ้านต่อไปจนกว่าจะหายไข้ และควรสวมหน้ากากเมื่ออยู่กับคนอื่นต่อไปอีก 5 วัน

 

กักตัวอย่างไรให้ปลอดภัยไม่แพร่เชื้อ

  • อย่าออกจากบ้าน งดไปโรงเรียนหรือที่ทำงาน และอย่าให้ใครมาเยี่ยม
  • ทิ้งระยะห่างจากผู้อื่น อย่างน้อย 1-2 เมตร
  • แยกห้องนอน หมอน ผ้าห่ม
  • แยกห้องน้ำ หากใช้ห้องน้ำรวม ให้ใช้ห้องน้ำเป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดหลังใช้ทันที
  • ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น แยกล้าง/แยกเก็บ ช้อน ส้อม จาน ชาม และของใช้ส่วนตัว
  • หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง เพราะเชื้อไวรัสอาจไปติดบนขนสัตว์ ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปที่อื่น
  • หากสั่งของออนไลน์ให้คนส่งของวางของไว้ที่หน้าบ้าน อย่าออกไปรับของจากมือโดยตรง
  • สังเกตตัวเองว่ามีอาการ ไข้ ไอ หอบ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อย หรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ ให้ใส่หน้ากากอนามัยและไปพบแพทย์
  • ทำความสะอาดบ้าน/สถานที่กักตัว ด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่ขายตามร้านค้าทั่วไป
  • ใช้เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์ เช่น ออกกำลังกายในที่พัก พักผ่อนให้เพียงพอ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ฯลฯ

ข้อมูลอ้างอิง : รามาเเชเเนล