“นิพนธ์”ยันยึดที่ดินแม่ธนาธรถูกต้องตามก.ม. ปัดกลั่นแกล้ง

05 เม.ย. 2565 | 14:32 น.

“นิพนธ์ บุญญามณี” ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ยันยึดที่ดิน”แม่ธนาธร”ถูกต้องตามกฎหมาย ปัดกลั่นแกล้งทางการเมือง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ให้สัมภาษณ์ ถึงการเพิกถอนเอกสิทธิถือครองที่ดิน น.ส.3 ก. ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุตรอีก 2 คน คือ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า นางสมพร มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมที่ดินภายใน 15 วัน 


เมื่ออุทธรณ์ต่อกรมที่ดินแล้วไม่เป็นผล นางสมพรมีสิทธิไปฟ้องศาลปกครองได้ เพราะถือว่าการเพิกถอนเป็นคำสั่งทางปกครอง จึงต้องไปดูว่าศาลปกครองจะพิจารณาอย่างไร 

ส่วนตนยังไม่ได้ทราบว่า นางสมพร ยื่นเรื่องมาหรือยัง หากนางสมพร ไม่ได้อุทธรณ์ก็ถือว่าจบ เพราะการเพิกถอนมีผลอยู่แล้ว และถือว่าไม่มีเอกสารสิทธินั้น โดยที่ดินดังกล่าวจะคืนสภาพเป็นที่ป่า การให้ศาลปกครองตรวจสอบถือเป็นเรื่องดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะศาลปกครองจะได้ดูพยานหลักฐานทั้งหมดว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางสมพร ระบุว่าถือครองที่ดินดังกล่าวมา 30 ปี ไม่มีปัญหา แต่เมื่อนายธนาธรเล่นการเมืองมีคดีเกิดขึ้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า กรณีนี้ให้ความเป็นธรรมกับนางสมพร เพราะนางสมพร ไปซื้อที่ดินต่อมาจริง แต่เมื่อมีการร้องเรียน ก็ต้องตรวจสอบซึ่งได้ความจริงว่า มีหนังสือจากกรมพัฒนาที่ดิน และกรมป่าไม้ มายืนยันว่าพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ป่าถาวร ซึ่งครม. ประกาศตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 ทางกรมที่ดินไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองต่อนายธนาธร นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ซึ่งได้กำชับกรมที่ดินว่าต้องให้ความเป็นธรรม เมื่อไปดูสารบบการจัดซื้อที่ดินจำนวน 60 แปลง หลายแปลงอาจจะอยู่ในเขตป่า ซึ่งทางนั้นก็รับทราบ และยินดีรับโอน จึงมีผลว่า นางสมพร อาจจะรับรู้ตั้งแต่ก่อนโอนแล้วจึงเซ็นรับไว้


“ผมพยายามดูเรื่องนี้ เพราะเกรงกลัวที่จะอ้างว่าใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ผมได้กำชับทุกฝ่ายไปทำให้เกิดความธรรมที่สุด ซึ่งเมื่อผมมาดูแผนระวาง รวมถึงดูเจ้าหน้าที่เดินสำรวจและรับทราบรายงาน ก็ไม่มีทางอื่น เพราะระบบโครงข่ายการรังวัดด้วยดาวเทียมแบบจลน์(RTK GNSS Network) ที่ใช้ตรวจ พบความคลาดเคลื่อนน้อยมาก เพราะดูจากรูปถ่ายดาวเทียม ลงแผนที่เป๊ะหมด มีอยู่ 1 แปลงจาก 60 แปลงที่บางส่วนคาบเกี่ยวซึ่งถ้าคาบเกี่ยวนอกเขตก็ต้องให้เขา และให้เขาไป ในส่วนที่ไม่ติดก็ไปแก้โฉนดให้ถูกต้อง” นายนิพนธ์ กล่าว


เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะคาบเกี่ยวกับคดีอาญาหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของกรมที่ดิน ต้องไปดูว่าใครมีหน้าที่ดูแลเขตป่า เช่น กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ต้องว่าไป และใครมีอำนาจตามกฎหมายก็ต้องไปดูว่าสามารถดำเนินคดีอาญาได้หรือไม่ เพราะคดีอาญาต้องดูที่เจตนา ถ้าไม่มีเจตนาก็ว่ากันไป ถ้ามีเจตนาก็เข้าสู่คดีอาญา