น้ำท่วมภาคใต้ล่าสุด นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ

27 ก.พ. 2565 | 08:42 น.

นายกฯ กำชับทุกหน่วยงาน ระดมกำลังช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วมภาคใต้ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง 3 ชายแดน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส

วันที่ 27 ก.พ. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับให้ทุกหน่วยงานระดมกำลังเข้าช่วยเหลือให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 25 - 26 ก.พ. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด (จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) รวม 18 อําเภอ 76 ตําบล 277 หมู่บ้าน ได้มีการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ทั้งการแจ้งเตือนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมการเฝ้าระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หยุดการะบายน้ำเขื่อนบางลางเป็นการชั่วคราวจนกว่ามวลน้ำหลากจะระบายลงสู่ทะเลเพื่อลดผลกระทบน้ำท่วม กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำกลางคลองมูโนะ อําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังออกพื้นที่ และมีการพร่องน้ำในแม่น้ำบางนารา โดยการควบคุมการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำบางนาราตอนบน ตอนล่างและประตูระบายน้ำน้ำแบ่ง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

สำหรับการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (สนง.ปภ.จ.) อําเภอ หน่วยทหารในพื้นที่ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครและมูลนิธิ เข้าสํารวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจัดจิตอาสาพระราชทาน นํากําลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยดําเนินการผลิตน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ณ อําเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่กองทัพเรือ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ลงพื้นที่สํารวจ สถานการณ์น้ำท่วม อําเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือต่อไป


“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันดำเนินการเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งขอให้ประชาชนมั่นใจว่าภาครัฐมีความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือ และที่สำคัญขอให้ประชาชนติดตามข่าวแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อจะได้อพยพได้ทันเวลา”

 

 

 

ทั้งนี้ ยังมีการเตือนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.คือ
- จังหวัดยะลา บริเวณอําเภอบันนังสตา อําเภอยะหา และอําเภอรามัน
- จังหวัดปัตตานี บริเวณอําเภอสายบุรี อําเภอยะรัง อําเภอหนองจิก และเมืองปัตตานี
- จังหวัดนราธิวาส บริเวณอําเภอแว้ง อําเภอสุคิริน อําเภอศรีสาคร อําเภอสุไหงปาดี อําเภอตากใบ อําเภอรือเสาะ อําเภอจะแนะ และอําเภอสุไหงโก-ลก