ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาติดโควิด 11 จังหวัด

28 ม.ค. 2565 | 07:40 น.

ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาติดโควิด 11 จังหวัด เผยคลัสเตอร์ราชบุรี โรงเรียนหญิงล้วนพบติดเชื้อแล้ว 311 ราย ย้ำสถานศึกษาเข้ม 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มงวด

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงข่าว ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 มกราคม 2565 ช่วงหนึ่งว่า คลัสเตอร์โควิดที่ในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กเป็นห่วง  ยังมีทั้งร้านอาหาร โรงเรียนเรียน ตลาด โรงงาน สถานประกอบการ พิธีกรรมทางศาสนา เฟหมือนที่เน้นย้ำมีรายงานอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีงานแต่งงาน ที่จังหวัดน่าน จันทบุรี สระบุรี มีงานศพ งานบวช ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

 

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์

 

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การจัดพิธีกรรมไม่ได้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ แต่หลังพิธีกรรมมักจะมีการจัดเลี้ยงอาหาร เปิดหน้ากาก ใกล้ชิด ล้อมวง ทำกิจกรรมรับประทานอาหาร หรือเล่นพนันหลังจัดงาน ฝากไปยังจังหวัดในการเข้มงวดการรวมกลุ่มรับประทานอาหาร การจัดงาน เลี้ยงที่มีการคลุกคลี สังสรรค์ ที่มีคนจำนวนมาก

 

คลัสเตอร์สถานศึกษามีหลายจังหวัดราชบุรี น่าน เพชรบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ร้อยเอ็ด (นักเรียนโรงเรียนกีฬา) สมุทรปราการ หนองคาย ยโสธร เลย และศรีสะเกษ โรงเรียนที่พบการติดเชื้อ มีตั้งแต่อนุบาล ก่อนวัยเรียน สถานศึกษารัฐ เอกชน โรงเรียนประจำ โรงเรียนกีฬา โรงเรียนมัธยมศึกษา

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า มีการวิเคราะห์โรงเรียนในจังหวัดราชบุรี เป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วน ตอนนี้คลัสเตอร์เดียว รายงานยืนยันของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ติดเชื้อรวม 311 ราย โดยเป็นกรณีที่โรงเรียนประจำอนุญาตให้กลับบ้านปีใหม่ และกลับมา 14-16 ม.ค.65 เมื่อนักเรียนกลับมาจากสถานที่แตกต่างกัน

 

นักเรียนทั้งหมด 570 ราย โรงเรียนมีการตรวจ ATK เบื้องต้น ผลเป็นลบทั้งหมดรวมทั้งครู แต่เมื่อมีการตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 ม.ค.65 พบผลบวก 120 ราย ซึ่งโรงเรียนมีแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน โดยแจ้งไปยัง สสจ.จังหวัด ซึ่งมีการส่งทีมควบคุมโรคไปให้ความช่วยเหลือ คัดแยกผู้ป่วย แยกกัก ผู้ที่มีสัมผัสเสี่ยงสูงทันที และมีการลงเก็บตัวอย่าง RT-PCT ตั้งแต่ 24 ม.ค. เป็นต้นมาและรายงาน ล่าสุด 311 ราย จากจำนวนทั้งสิ้น รวมครู 6 ท่านเป็น 576 ราย

 

ในวันนี้ สสจ. ราชบุรี รายงานว่า นักเรียนได้รับการรักษาแล้ว 26 รายที่โรงพยาบาล และมี 285 รายเข้ารักษาในรพ.สนาม เบื้องต้นมีมาตรการปิดโรงเรียน ทำความสะอาด สอบสวนโรค และจัดการตามมาตรการที่เหมาะสม

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาสู่คำถามว่า การที่ตรวจ ATK มีความแม่นยำเพียงพอหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การตรวจ ATK นั้น มีความสำคัญ แต่ต้องพึงระวังว่าสามารถเกิดผลลบลวงได้ไม่เกิน 10% หรืออยู่ประมาณ 5-7% ซึ่งทางกระทรวงสาธาณสุขได้มีคำแนะนำว่า แม้ว่าจะตรวจ ATK เป็นลบ แต่ถ้าสำรวจประวัติแล้ว มีการเดินทางมาจากหลายพื้นที่ มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก มีประวัติสัมผัสผู้ที่มีความเสี่ยง หรือปัจจัยเสี่ยง ขอให้กักตัวก่อนเป็นเวลา 7 วัน คล้ายกับมาตรการสถานประกอบการ โรงงาน ที่ต้องมีการแยกกักก่อน

 

หากมีผล ATK เป็นบวก เรียกว่าท่านเป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่าย มีคำแนะนำให้กักตัว 7 วัน สังเกตอาการตนเอง พอวันที่ 8-10 แม้จะผลเป็นลบ ก็อนุญาตให้ทำงานได้แต่ยังต้องแยกพื้นที่กับผู้อื่น มีการเฝ้าระวังมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล และไม่ไปในที่สาธารณะ เลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะช่วงหนาแน่น

 

ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาติดโควิด 11 จังหวัด

 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า การรายงานคลัสเตอร์โรงเรียนต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้ปกครองเกิดความลังเล ไม่มั่นใจที่จะให้ลูกหลานไปโรงเรียน สธ.และที่ประชุม ศปก. ศบค. มีความเป็นห่วง ต้องเน้นย้ำว่า เรายังต้องอยู่ร่วมกับโควิดอีกสักระยะ แม้นโยบายต่างประเทศและ WHO ใช้มาตรการอยู่กับโควิดให้ได้

 

โดยศบค.ชุดใหญ่มีแนวโน้มทิศทางผ่อนคลาย มาตรการต่างๆมากขึ้น ไม่ใช่เพราะความเสี่ยงลดลง ความเสี่ยงยังคงมี โควิดยังคงอยู่ แต่เราจำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพี่น้องประชาชนดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุด ดังนั้น ในส่วนของ กระทรวงศึกษาธิการ และ ผอ.ศปก.ศบค. มีการหารือร่วมกันอย่างเร่งด่วนในการติดตามมาตรการสถานศึกษาปลอดโควิด

 

สำหรับมาตรการมีอยู่แล้วแต่ต้องนำไปเข้มงวด กำกับให้ชัดเจน หลักๆ ได้แก่  6 มาตรการหลัก  1.เว้นระยะห่าง 2.สวมหน้ากากอนามัย 3.ล้างมือ 4.คัดกรองวัดไข้ 5.ลดการแออัด และ 6.ทำความสะอาด  

 

6 มาตรการเสริม ได้แก่ 1.ดูแลตนเอง 2.ใช้ช้อนกลางส่วนตัว 3.กินอาหารปรุงสุกใหม่ 4.ลงทะเบียนเข้าออก 5.สำรวจตรวจสอบ และ6.กักกันตัวเอง 

 

ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาติดโควิด 11 จังหวัด

 

7 มาตรการเข้มงวด ได้แก่ 1.ประเมิน TSC+ และรายงานผลผ่าน MOE COVID ต่อเนื่อง 2.Small Bubble ทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อยไม่ทำกิจกรรมข้ามกลุ่ม  3.อาหาร ตามหลักสุขาภิบาลอาหารและโภชนาการ  4.อนามัยสิ่งแวดล้อม ตามเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ  5.School Isolation มีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมอย่างเร่งครัด  6.Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน  และ7.School Pass สำหรับทุกคนในสถานศึกษา