ศบค.เผยยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์

20 ธ.ค. 2564 | 08:10 น.

ศบค.เผยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคลัสเตอร์ ในโรงงานและสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด ด้านกทม.พบคลัสเตอร์ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง สธ.เปิดรายละเอียดคลัสเตอร์ผู้เดินทางมาจากกิจกรรมทางศาสนา ประเทศในแถบตะวันออกกลาง

พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าว ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล 20 ธันวาคม 2564 ว่า ยังพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ ในโรงงานและสถานประกอบการ ที่ ขอนแก่น ปราจีนบุรี ลพบุรี ในแคมป์คนงาน ที่สระบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ ในตลาด ที่อุบลราชธานีและบึงกาฬ ในโรงเรียนและสถานศึกษา ที่สมุทรปราการ ชลบุรี ในค่ายทหาร ที่ประจวบคีรีขันธ์ ลพบุรี
          

ทั้งนี้ ทางกทม.รายงานคลัสเตอร์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตบางกอกน้อย พบผู้ป่วย 19 ราย เมื่อสอบสวนโรค พบว่า เป็นร้านมืดทึบ ระบบการถ่ายเทไม่สะดวก มีการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม มีการเล่นดนตรีวันละ 2 วง และแม้มีการปฏิบัติตามมาตรฐาน ทั้งให้พนักงานฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงมีการสุ่มตรวจ ATK แต่ยังพบการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ขึ้นมา
 

ทางศบค.ชุดเล็กเน้นย้ำมาตรการ Covid Free Setting  และมีการสุ่มตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ และคนที่ใช้บริการให้เตรียมผลการฉีดวัคซีนครบโดสด้วย เพื่อความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากร้านใดที่ยังไม่พร้อมให้บริการ หรือสามารถดำเนินการตามมาตรการ Covid Free Setting ได้ กรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีสิทธิ์สั่งปิดร้านนั้น และสามารถสั่งให้ไปดำเนินการจนกว่าจะมีความพร้อมให้บริการ

 

พญ.สุมณี ยังเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting เพื่อที่จะสามารถจัดงานปีใหม่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทุกคนอยากให้มีการผ่อนคลายมาตรการแต่ยังคงมีการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นจำนวนมาก แต่สามารถป้องกันได้ซึ่งการจัดกิจกรรมใดๆก็ตามสามารถสุ่มตรวจ ATK ได้
          

ทั้งนี้ หากมีประชาชนเห็นว่า มีความแออัดของสถานที่ หรือมีผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความปลอดภัย เช่น ไม่สวมหน้ากากแล้วอ้างว่า ฉีดวัคซีนครบแล้ว ซึ่งทางศบค.ยังไม่อนุญาตว่า หากฉีดวัคซีนครบแล้วไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก เพราะการไม่สวมหน้ากากในประเทศไทยยังถือว่า ผิดกฏหมาย สามารถโดนโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
          

นอกจากนี้ พญ.สุมณี กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือมาตรการจัดการรับนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับมาตรการเป็นระยะ แต่จากสถานการณ์ช่วงนี้ ได้มีการหารือกับหลายหน่วยงานและมีการยกระดับมาตรการแน่นอน โดยขอให้เน้นย้ำมาตราการเฝ้าระวังในประเทศ และหากมีข้อสรุปจะมารายงานเพิ่มเติม

 

ศบค.เผยยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์

 

กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 และสายพันธุ์โอมิครอน ถึงคลัสเตอร์ผู้เดินทางกลับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา จากประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 3 ราย โดยการสอบสวนโรคพบว่าวันที่ 13-14 ธ.ค. มีผู้เดินทางกลับมาจากซาอุดิอาระเบียทั้งสิ้น 133 ราย ที่จังหวัดภูเก็ต ในระบบ Test & Go ถือเป็นผู้สัมผัสทั้งหมดตรวจ RT-PCR รอบแรกพบติดเชื้อ 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเชื้อเดลตา 2 ราย  เป็นเพศชาย อายุ 48 ปี ฉีดแอสตร้า 2 เข็ม ไม่มีอาการ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย, หญิงไทย อายุ 40ปี ฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม พบสัมผัสเสี่ยงสูงคือสามี 1 ราย  

 

ส่วนอีก 1 รายเป็นเชื้อโอมิครอน เป็นชายไทย อายุ 36 ปี มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ปวดศีรษะ คัดจมูกน้ำมูกไหล รับวัคซีน 3 เข็มแล้วเป็นซิโนแวค 2 เข็มและไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 มีผู้สัมผัสเสียงสูงที่นอนห้องเดียวกัน 1 ราย ที่เหลือ 130 รายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง4 ราย  และเสี่ยงต่ำ 126 ราย เป็นลบทั้งหมด จะตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 20 และ21ธ.ค. นี้ และจะติดตามจนครบ 14 วัน ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้

 

ศบค.เผยยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์

 

คลัสเตอร์ผู้เดินทางกลับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา จากประเทศซาอุดิอาระเบีย 18 ราย  คณะนี้เดินทางมาทั้งหมด 31 คน โดยกลับเข้าในระบบ Test and Go ติดเชื้อโควิค 14 ราย อยู่ระหว่างการตรวจหาสายพันธุ์สงสัยว่าเป็นเชื้อโอมิครอนทั้งหมด โดยวันที่ 19 ธ.ค. มีการติดตามตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมพบติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย  รักษาในรพ.อีกจังหวัดหนึ่ง จากนั้นมีการตรวจพบเพิ่มอีก 2 รายอยู่ระหว่างการดูแลที่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา