หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 14 ตุลาคม 2564
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 2564 เติบโตลดลงจากเพิ่มขึ้น 5.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับเพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ยังคงตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 2565 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มยังคงการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสราว 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ประเทศจีนรายงานตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ก.ย. 64 ลดลงราวร้อยละ 15.3 หรือลดลงจากระดับ 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีก่อนหน้า สู่ระดับ 9.99 ล้านบาร์เรลต่อวัน และต่ำกว่าเดือน ส.ค. 64 ที่ระดับ 10.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 8 ต.ค. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับการปรับตัวลดลงของน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ กว่า 4.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางอุปทานที่ปรับตัวลดลง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 80.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 83.18 ดอลลาร์/บาร์เรล