ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม รับแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้ทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว

28 ก.ย. 2564 | 01:25 น.

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงตึงตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.45 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.53  ดอลลาร์/บาร์เรล

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 28 กันยายน 2564

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม รับแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้ทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน  โดยน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ ต.ค. 2561 หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำมันทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศสมาชิกบางส่วนของกลุ่มโอเปกพลัสยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความฟื้นตัวในการใช้น้ำมัน เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงและการลงทุนที่จำกัดในช่วงที่ผ่านมา

+ อุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงตึงตัว หลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดาและนิโคลัสที่เข้าพัดถล่มบริเวณอ่าวเม็กซิโกตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ท่อขนส่งน้ำมันดิบและกระบวนการผลิตเกิดความเสียหาย และจำเป็นต้องหยุดพักการผลิต

+ Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีโอกาสแตะระดับ 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลภายในสิ้นปี  หลังตลาดน้ำมันดิบค่อนข้างตึงตัวจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันมากขึ้น  แต่อย่างไรก็ตาม การกลายพันธุ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจส่งผลต่ออุปสงค์

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลง ส่งผลให้อุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น  รวมถึงปริมาณการส่งออกของจีนที่ลดลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่เริ่มฟื้นตัว อีกทั้งปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีน ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคปรับเพิ่ม หลังโรงกลั่นในประเทศอินเดียกลับมาดำเนินการสูงขึ้น

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะพุ่งขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ต.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 79.53  ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561