อัพเดท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ล่าสุด 1,000 ขยายจ่ายเบี้ยความพิการ

26 ก.ย. 2564 | 10:00 น.

อัพเดท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ล่าสุด 1,000 ขยายจ่ายเบี้ยความพิการเติมเงินในบัตร200 บาท ถึงวันไหนเช็คที่นี่

จากกรณีที่มติคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เห็นชอบในหลักกการเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาอนุมัติงบประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการ แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 4 ประเด็น ได้แก่

1. ขยายมาตรการภาระค่าน้ำค่าไฟ สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่ตุลาคม 64 - ก.ย. 65

2. จัดสวัสดิการให้กับผู้ถือบัตร 13.5 ล่านคน ในเรื่องค้าก๊าซหุงต้ม

3. เปิดลงทะเบียนบัตสวัสดิการรอบใหม่ 1.6 พันล้านบาท

4. การจัดสรรสวัสดิการ ให้ผู้ถือบัตรรวม 4 พันกว่าล้านบาท

 

ขยายเบี้ยความพิการถึง ก.ย.65

 

สำหรับเบี้ยความพิการที่เติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ทุกวันที่ 22 ของเดือนและสิ้นสุดไปในเดือนกันยายน 2564 ล่าสุด   ครม. ได้มีมติอนุมัติ ขยายสิทธิเบี้ย ผู้พิการในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565 การรับเบี้ยความพิการ จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น (รวมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ200บาท) สำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เท่านั้น

 

ก่อนหน้านี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 27,005.66 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้

 

1. วงเงิน 2,018 ล้านบาท เพื่อขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ/ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – กันยายน 2565 (12 เดือน) -กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน กรณี ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน กรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด ครอบคลุม 1.9 ล้านครัวเรือน โดยประมาณ

 

  • สนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาท /ครัวเรือน /เดือน ในกรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระด้วยตนเอง และกรณีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด ครอบคลุมประมาณ 186,625 ครัวเรือน

2. วงเงิน 18,815 ล้านบาท สนับสนุน ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ

  •  ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ โดยผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้ ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55บาท/คน/3 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก. ระบบ e-Ticket /รถไฟฟ้า บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน 
  • เบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน อีกด้วย

 

3. วงเงิน 1,642 ล้านบาท ดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ

 

4.วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท สำหรับจัดสรรสวัสดิการแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีบัตรฯ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ผู้สมัครรอบใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น

 

“การช่วยเหลือลดอัตราค่าน้ำ/ค่าไฟ ตลอดจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลห่วงใยเพื่อให้สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้ รวมทั้งการยกระดับและพัฒนา คุณภาพชีวิตแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี" นายธนกรฯ กล่าว.