หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 23 กันยายน 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นต่างๆ ในอ่าวเม็กซิโกกลับมาผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง จากที่หยุดชะงักไปเพราะความเสียหายของพายุเฮอร์ริเคนไอดา ส่งผลให้กำลังการกลั่นรายสัปดาห์ปรับเพิ่มสูงขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับที่ 10.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อุปทานสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จึงได้ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 64 ปรับตัวลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ 414.0 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล
+ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงุทนยังคงอยู่ในตลาดน้ำมันต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินเดียปรับตัวสูงขึ้น หลังการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในประเทศคืบหน้ามาก ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการขับขี่ปรับสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคตึงตัวขึ้น จากปริมาณการส่งออกของจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่มีแนวโน้มลดลง รวมถึงอุปสงค์จากออสเตรเลียที่สูงขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 76.19 ดอลลาร์/บาร์เรล