“ผู้กำกับโจ้” เครียดนอนคุกคืนแรก ทนายยังไม่ยื่นประกัน

29 ส.ค. 2564 | 02:41 น.

 “ผู้กำกับโจ้” นอนคุกคืนแรกที่เรือนจำพิษณุโลกมีอาการเครียดเล็กน้อย ร้องขอกระดาษเขียนจดหมายถึงพ่อแม่  ราชทัณฑ์ยันไร้สิทธิพิเศษ ทนายระบุ ยังไม่คิดยื่นขอประกันตัว เพราะคดีเข้าสู่กระบวนการแล้ว รอให้สถานการณ์ดีขึ้นและจังหวะเหมาะสม

นายณรงค์ จุ้ยเส่ย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพิษณุโลก เปิดเผยวานนี้ (28 ส.ค.) ถึงการส่งตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย พร้อมพวกอีก 6 คน มาฝากขังที่เรือนจำกลางพิษณุโลกว่า หลังจากมีการนำตัวผู้ต้องหาจากนครสวรรค์มาที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก 5 คน คุมขังไว้ห้องหนึ่ง ส่วนอีกชุดของอดีตผู้กำกับโจ้ และผู้ต้องหาอีกคน ถูกแยกขังอีกห้อง ซึ่งได้ปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมและไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ ซึ่งในคืนแรกอดีตผู้กำกับโจ้มีอาการเครียดเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องปกติของผู้ที่ถูกคุมขัง และวันที่ 30 ส.ค.นี้ จะมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน

 

ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสภาพล่าสุดของ ผกก.โจ้ ว่า ในช่วงแรกมีอาการเครียดก่อนเข้ามาภายในเรือนจำ แต่ทางกรมราชทัณฑ์ก็ได้จัดเตรียมนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับ ผกก.โจ้ และตรวจเช็กสภาพอาการทางจิต ว่ามีภาวะเครียดมากน้อยเพียงใด และพูดคุยทำความเข้าใจให้ผ่อนคลายและเข้าใจถึงการปฏิบัติตัวในเรือนจำ นอกจากนี้ ยังได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเข้าสู่กระบวนการกักตัวของทางเรือนจำเป็นเวลา 21 วันนับจากนี้

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวด้วยว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ (ผกก.โจ้) และผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายปราบปรามยาเสพติด จึงจะนำตัวทั้งหมดไปควบคุมยังแดนที่ไม่มีผู้ต้องขังในคดียาเสพติดอยู่ หรืออาจมีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหา เพราะไม่ทราบว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างไร หรืออาจมีผู้ต้องขังที่เคยถูก พ.ต.อ.ธิติสรรค์จับกุมดำเนินคดีต้องการเอาคืนทำร้ายหรือไม่ ซึ่งเป็นการป้องกันการทำร้ายหรือเกิดการทะเลาะวิวาทในเรือนจำ ทั้งนี้ ยังมีกล้องวงจรปิดที่ใช้ดูแลความปลอดภัย พ.ต.อ.ธิติสรรค์และผู้ต้องขังทุกคน โดยปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังทุกคน ไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ

 

ทั้งนี้ ผกก.โจ้ ได้ร้องขอกระดาษและปากกาเพื่อเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ญาติพี่น้อง ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้จัดหาให้ตามระเบียบ และจะมีการนำจดหมายดังกล่าวไปตรวจสอบถ้อยคำต่างๆ ก่อนจะนำส่งให้ตามขั้นตอนต่อไป

 

นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจของผกก.โจ้ เปิดเผยเกี่ยวกับการยื่นขอประกันตัวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดยื่นขอปล่อยชั่วคราวผกก.โจ้ เพราะต้องดูสถานการณ์และความเหมาะสมหลายๆด้าน รวมทั้งหลักทรัพย์ ที่จะใช้ขอประกันตัว คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายระยะหนึ่งก่อนแล้ว ค่อยคิดเรื่องประกันตัว

 

ส่วนที่ในชั้นสอบสวน ผกก.โจ้ ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีทุกข้อกล่าวหาทั้ง ๆ ที่ในชั้นจับกุม ได้แถลงกับสื่อมวลชนว่า ยอมรับผิดเพียงคนเดียวลูกน้องไม่เกี่ยว เพราะเป็นคนสั่งนั้น ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา เพราะถูกแจ้งดำเนินคดีหลายข้อหา บางข้อหา ผกก.โจ้บอกว่า ไม่ได้ทำ แต่คงเปิดเผยไม่ได้ว่า มีข้อหาอะไรบ้าง เพราะจะเสียหายต่อรูปคดี